STARBUCKS เล็งขายหุ้นบางส่วนธุรกิจในจีน หาผู้ร่วมทุนสู้ตลาดท้องถิ่น

STARBUCKS เล็งขายหุ้นบางส่วนธุรกิจในจีน หาผู้ร่วมทุนสู้ตลาดท้องถิ่น

"สตาร์บัคส์" ติดต่อกองทุนไพรเวตอิควิตี้และบริษัทเทคโนโลยีเพื่อหาทางเติบโตในจีน รวมถึงอาจขายหุ้นบางส่วน ขณะเจอคู่แข่งท้องถิ่นอย่าง Luckin Coffee และ Cotti Coffee บุกหนัก

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (15 พ.ค.) ว่า สตาร์บัคส์ คอร์ป (Starbucks Corp.) ได้ติดต่อกับบริษัทกองทุนไพรเวตอิควิตี้ บริษัทเทคโนโลยี และอื่นๆ เพื่อพิจารณาทางเลือกสำหรับธุรกิจในจีน ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในการขายหุ้นบางส่วน ตามรายงานจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้

แหล่งข่าวระบุว่า ภายในสัปดาห์นี้ เชนกาเเฟยักษ์ใหญ่ได้ส่งจดหมายผ่านที่ปรึกษาทางการเงินไปยังนักลงทุนที่มีศักยภาพหลายราย เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจในจีนและวิธีการขยายธุรกิจ โดยขอให้ไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากกระบวนการนี้เป็นความลับ ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวอาจมีมูลค่าสินทรัพย์หลายพันล้านดอลลาร์ (หลายหมื่นล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สตาร์บัคส์กำลังประเมินการดำเนินงานในจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของบริษัท โดยบริษัทได้เตือนถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจมหภาคและการแข่งขันในประเทศ ที่มีผู้เล่นท้องถิ่นรายใหญ่อย่าง Luckin Coffee Inc. และ Cotti Coffee เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด

สตาร์บัคส์มีสาขามากกว่า 7,750 แห่งในจีน ณ สิ้นเดือน มี.ค. สร้างรายได้สุทธิประมาณ 740 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 24,790 ล้านบาท) ในจีน สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือน มี.ค. ขณะที่รายได้สุทธิของ Luckin ในช่วงเดียวกันอยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 40,200 ล้านบาท)

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก คาดว่า ผู้สนใจเข้าประมูลจะต้องส่งข้อเสนอแนะเบื้องต้นภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม สตาร์บัคส์อาจตัดสินใจไม่ทำข้อตกลงก็ได้เช่นกัน

ตัวแทนของสตาร์บัคส์กล่าวว่า บริษัทไม่มีความเห็นเพิ่มเติมนอกจากที่ได้แถลงต่อสาธารณะแล้ว โดยอ้างถึงการประชุมนักลงทุนเมื่อปลายเดือน เม.ย. ซึ่งไบรอัน นิกคอล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่ามีหลักฐานของความก้าวหน้าในจีนหลังจากเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์และราคา

"เรายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในจีนในระยะยาว" นิกคอลกล่าวในเวลานั้น "เราเห็นศักยภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจของเราที่นั่นในอีกหลายปีข้างหน้า และยังคงเปิดกว้างต่อวิธีการที่เราจะบรรลุการเติบโตนั้น"

นิกคอลยังกล่าวเมื่อเดือน ต.ค. ว่า สตาร์บัคส์กำลังสำรวจความร่วมมือเพื่อช่วยในระยะยาว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ทั้ง McDonald's Corp. และ Yum! Brands Inc. บริษัทแม่ของ KFC ได้ขายหุ้นในกิจการจีนให้กับบริษัทกองทุนไพรเวตอิควิตี้เพื่อเข้าถึงการเติบโตและตอบสนองต่อรสนิยมท้องถิ่นได้ดีขึ้น ในปี 2566 McDonald's ตกลงซื้อคืนหุ้นส่วนน้อยของ Carlyle Group Inc. ในการร่วมทุนที่ดำเนินธุรกิจเครือข่ายในจีน ฮ่องกง และมาเก๊า

หุ้นสตาร์บัคส์ปรับลดลง 25% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.

อ้างอิง: Bloomberg