ทรัมป์ปิดดีลยักษ์กาตาร์! 8 ล้านล้านบาท ขายโบอิงได้ 210 ลำ พร้อมโดรนสุดล้ำ

ปธน.ทรัมป์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการบรรลุข้อตกลงเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลกับ ‘กาตาร์’ ราว 8 ล้านล้านบาท ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ Qatar Airways จัดซื้อเครื่องบินโบอิง 210 ลำ ไปจนถึงความร่วมมือด้านกลาโหม และการลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัม
ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้บรรลุข้อตกลงกับ “กาตาร์” รวมมูลค่ากว่า 243,500 ล้านดอลลาร์ หรือ “ราว 8 ล้านล้านบาท” ซึ่งถือเป็นการปูทางไปสู่คำมั่นทางเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่ามูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ กับประเทศเล็กๆ แห่งอ่าวอาหรับนี้ ตามรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
“ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่เฉลิมฉลองในวันนี้ จะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม และความมั่งคั่งต่อเนื่องไปอีกหลายรุ่น เสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคการผลิต และความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ และนำพาอเมริกาเข้าสู่ยุคทองใหม่” ทำเนียบขาวระบุ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น ในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางเยือน “ตะวันออกกลาง” เป็นจุดหมายที่สองเพียงหนึ่งวัน หลังจากที่เขาเปิดเผยการลงทุนจาก “ซาอุดีอาระเบีย” ในภาคการผลิต สินค้า และบริการของสหรัฐ รวมมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 20 ล้านล้านบาท
ในช่วงเช้าของวันพุธ (14 พ.ค.68) ทำเนียบขาวประกาศว่า สายการบิน Qatar Airways ได้ลงนามในแผนจัดซื้อเครื่องบินจากบริษัท Boeing รวมมูลค่า 96,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3 ล้านล้านบาท เพื่อจัดหาเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliner และ 777X สูงสุดถึง 210 ลำ โดย
ทำเนียบขาวระบุว่า นี่เป็นคำสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรุ่น 787 ด้วยเช่นกัน
หนึ่งในประเด็นสำคัญของความเป็นหุ้นส่วนกับกาตาร์คือ “ด้านการป้องกันประเทศ” โดยรัฐบาลสหรัฐ และกาตาร์ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ กับบริษัท Raytheon ซึ่งเป็นผู้รับเหมาด้านกลาโหมรายใหญ่ของสหรัฐ เพื่อจัดหาเทคโนโลยีต่อต้านโดรนให้กับกาตาร์
ข้อตกลงนี้จะทำให้กาตาร์กลายเป็น “ลูกค้าต่างชาติรายแรก” ที่ได้ใช้ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับแบบติดตั้งประจำแบบบูรณาการ (Fixed Site-Low, Slow, Small Unmanned Aerial System Integrated Defeat System) ของ Raytheon
นอกจากนี้ General Atomics บริษัทพลังงาน และการป้องกันประเทศของสหรัฐ ยังได้รับข้อตกลงเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการจัดหาโดรน MQ-9B สุดล้ำยุคให้กับกาตาร์ ซึ่งช่วยให้การข่าวกรอง การเฝ้าระวัง และการลาดตระเวน ตามข้อมูลจากทำเนียบขาว และทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในแถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงแนวโน้มการลงทุนที่มีมูลค่ากว่า 28,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9 แสนล้านบาท
แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่กาตาร์กลับมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อความมั่นคงของสหรัฐ รวมถึงความทะเยอทะยานของทรัมป์ในการเป็น “คนกลาง” เจรจาสันติภาพตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
กาตาร์ยังมีความสำคัญมากขึ้นในสายตาของทรัมป์ บรรดาพันธมิตรใกล้ชิดของเขา และธุรกิจครอบครัวอย่าง Trump Organization ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งลงนามในข้อตกลงพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ คลับเฮาส์ และวิลล่าติดชายหาดบนชายฝั่งของกาตาร์
สำหรับ “กาตาร์” เป็นที่ตั้งของฐานทัพ Al Udeid ซึ่งเป็น “ฐานทัพสหรัฐที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค” โดยศูนย์ปฏิบัติการขนาดใหญ่แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของกองบัญชาการกลางสหรัฐ และตามข้อตกลงที่ทำไว้เมื่อปีที่แล้ว ฐานทัพแห่งนี้จะยังคงเป็นที่ตั้งของทหารอเมริกันไปอีกอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ
ย้อนไปในปี 2022 อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังได้ประกาศให้กาตาร์เป็นพันธมิตรหลักนอกนาโต้ของสหรัฐอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมืออื่นๆ ที่ทำเนียบขาวเน้นย้ำ ได้แก่ การลงทุนร่วมกันระหว่าง Quantinuum บริษัทคอมพิวเตอร์ควอนตัมของสหรัฐ กับ Al Rabban Capital บริษัทโฮลดิ้งของกาตาร์ที่ลงทุนด้านเทคฯ ซึ่งจะลงทุนสูงสุดถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีควอนตัม และการพัฒนากำลังคนในสหรัฐ
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






