ต่างชาติมอง เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ‘ชะลอตัว’ 3 ปัจจัยฉุด GDP ร่วง 2.9%

ต่างชาติมอง เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ‘ชะลอตัว’ จาก 3 ปัจจัย เอกชนลงทุนน้อย การบริโภคอ่อนแอ และการท่องเที่ยวซบเซา ฉุดรั้ง GDP ร่วงแตะ 2.9%
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจประเทศไทย ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 มีแนวโน้ม “ชะลอตัวลง” จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การลงทุนของบริษัทเอกชนลดน้อยลง, การบริโภคภาคครัวเรือนที่อ่อนแอ และการท่องเที่ยวที่ลดลง โดยรัฐบาลจะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พ.ค.68 นี้
รอยเตอร์สอบถามความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 20 คน ในช่วงวันที่ 8 ถึง 14 พ.ค.68 โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ประมาณ 2.9% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์แต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป บางคนมองว่าจะเติบโตต่ำสุดที่ 2.2% และบางคนมองว่าอาจจะเติบโตได้สูงสุดถึง 3.8%
นอกจากนี้ จากการสำรวจในเดือนเม.ย. นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้ง ปี 2568 ลงเหลือ 2.1% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ในการสำรวจเมื่อเดือนม.ค.ว่าจะเติบโตได้ถึง 2.9% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 2.0 % และสูงกว่าตัวเลขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียง 1.8%
กังวลเอกชน 'ลดการลงทุน'
ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่ากำลังซื้อในประเทศจะไม่ค่อยแข็งแรงนัก และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่มากเท่าที่คาดหวัง แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ โดยมีปัจจัยบวกจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้นเข้ามาช่วยพยุง
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่น่ากังวลคือ ตลอดทั้งปี 2567 การลงทุนของภาคเอกชนกลับลดลงถึง 1.6% ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงปลายปีที่แล้วด้วย โดยไตรมาส 4 ปี 2567 เศรษฐกิจขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การลงทุนของบริษัทเอกชนต่างๆ อาจกลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจในไตรมาสแรก เนื่องจากธุรกิจหลายแห่งกำลังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในสถานการณ์โดยรวมเท่าไรนัก
อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ไทยมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้า 10% ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับทั่วโลก และคล้ายกับที่คู่แข่งอย่างเวียดนาม ซึ่งจะลดความเสียเปรียบของผู้ส่งออกไทย
ก่อนหน้านี้ ไทยเผชิญภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐที่ระดับ 36% โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบุว่าไทยได้รับการตอบรับเชิงบวกเกี่ยวกับความเป็นไปได้สำหรับข้อตกลงการค้า
อ้างอิง Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







