เปิดแผนท่องเที่ยวสิงคโปร์ แพงกว่าแต่ทำไมน่าเยือน?

เปิดแผนท่องเที่ยวสิงคโปร์   แพงกว่าแต่ทำไมน่าเยือน?

นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะมีโรงแรมราคาไม่แพง ทิวปาล์มโบกสะบัดเป็นตัวล่อใจ แต่ยุทธศาสตร์ของสิงคโปร์แตกต่างออกไปโดยเน้นไปที่การเพิ่มรายจ่ายแทนการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงาน เมื่อกลางเดือน เม.ย. ทางการสิงคโปร์เผยแผนเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว จากที่เคยทุบสถิติ 2.98 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 ให้มาอยู่ที่ 4.7-5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใน 15 ปี

เกรซ ฟู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม กล่าวในเวทีประชุมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสิงคโปร์ 2025 ว่ายุทธศาสตร์ “ท่องเที่ยว 2040” ของสิงคโปร์มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การเพิ่มความต้องการของนักเดินทางสองกลุ่ม คือกลุ่มเดินทางทำธุรกิจและกลุ่มแวะพัก

ทางการตั้งเป้าเพิ่มรายได้สามเท่าจากนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ (MICE) หรือ คนที่มาร่วมประชุมขององค์กร ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมวิชาชีพ และการจัดนิทรรศการ

“โดยเฉลี่ย นักเดินทางกลุ่มไมซ์ใช้จ่ายมากกว่านักเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจถึงสองเท่า จึงเป็นเซกเมนท์ที่มีคุณค่ามากสำหรับสิงคโปร์ คาดกันว่าภาคส่วนไมซ์โลกมูลค่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่าในทศวรรษที่กำลังมาถึงนี้” ฟูกล่าวและว่า สิงคโปร์ยังหาทางพัฒนาฮับไมซ์ใหม่ๆ ในย่านใจกลางสิงคโปร์ด้วย เปิดแผนท่องเที่ยวสิงคโปร์   แพงกว่าแต่ทำไมน่าเยือน? (ภาพจาก visitsingapore.com)

เมลิสสา โอว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คณะกรรมการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (เอสทีบี) กล่าวในเวทีเดียวกันว่า ผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมไมซ์จะมากยิ่งกว่ารายได้จากการท่องเที่ยว “จะช่วยให้เราเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมหลักได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เศรษฐกิจของเราจะเติบโตได้มากจากการที่ตัวแสดงสำคัญและผู้นำความคิดมารวมตัวกันในสิงคโปร์ ยกระดับสถานะการเป็นเมืองไมซ์ที่ดีที่สุดในโลกของเรา”

 โอวประกาศกลางเวทีว่า สิงคโปร์ได้งานไมซ์ใหญ่สุดเท่าที่เคยมี นั่นคืองาน Herbalife Extravaganza 2026 ที่คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงาน 25,000 คน

นอกจากนี้นักเดินทางแวะพักเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะเพิ่มรายได้การท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังจากสนามบินชางงีเปิดอาคารผู้โดยสารหลังที่ 5 ช่วงกลางทศวรรษ 2030 เมื่อแล้วเสร็จ อาคารผู้โดยสารหลังใหม่จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินชางงีจาก 90 ล้านคน เป็น 140 ล้านคนต่อปี

“ผู้โดยสารแวะพักและต่อเครื่องปัจจุบันคิดเป็นหนึ่งในสามของผู้โดยสารทั้งหมดของสนามบินชางงี เทอร์มินอลใหม่จะเพิ่มการเดินทางเข้าออกสิงคโปร์ของผู้โดยสารมากขึ้น” ซีอีโอเอสทีบีขยายความ 

  •  แหล่งท่องเที่ยวเวิลด์คลาส-เรือสำราญ

อย่างไรก็ตาม โอวย้ำว่า นักเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจยังคงสำคัญกับสิงคโปร์ เพื่อดึงดูดคนกลุ่มนี้สิงคโปร์จะเดินหน้าให้ความสำคัญกับการจัดหา “แหล่งท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส” ต่อไป ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่นำมาใช้แข่งกับการท่องเที่ยวราคาถูกกว่าของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

แหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Singapore Oceanarium มีกำหนดเปิดในปีนี้ ตามด้วยศูนย์ประสบการณ์ปอร์เช่ และศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งใหม่ในปี 2027

ไม่เพียงเท่านั้นสิงคโปร์ยังตั้งเป้าเสริมแกร่งให้กับสถานะอุตสาหกรรมเรือสำราญที่กำลังเติบโตของเอเชียด้วย  ในที่นี้หมายถึงการเปิดตัวเรือสำราญชื่อดัง “ดิสนีย์แอดเวนเจอร์” ของดิสนีย์ครุยส์ไลน์ ซึ่งจะเริ่มให้บริการในสิงคโปร์ในเดือน ธ.ค.และการเปิดตัวลูมินารา เรือยอชท์สุดหรูของริตซ์-คาร์ลตันยอชท์คอลเลคชัน เรือสุดหรูที่จะแล่นจากสิงคโปร์ในเดือน ธ.ค.เช่นกัน

นอกจากเรือสำราญ สิงคโปร์ยังอยู่ในสถานะเหมาะสมกับการท่องเที่ยวเวลเนสที่มาแรงทุกขณะ เนื่องจาก “คุณค่าที่ไม่เหมือนใครของสิงคโปร์ในฐานะเมืองในธรรมชาติ” โดยเอสทีบีกำหนดให้การเดินทางเพื่อชีวิตที่ยืนยาวและ “โรงแรมเวลเนส” เป็นวิธีขับเคลื่อนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวและการกลับมาเยือนซ้ำ เปิดแผนท่องเที่ยวสิงคโปร์   แพงกว่าแต่ทำไมน่าเยือน? (ภาพจาก visitsingapore.com)

  •  ฝันไกลเอนเตอร์เทนเมนท์

เศรษฐกิจคอนเสิร์ตมีส่วนช่วยให้รายได้จากการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ช่วงหลังโควิดเพิ่มขึ้นอย่างมาก อานิสงส์ Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่มาสิงคโปร์เป็นที่เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยเหตุนี้เอสทีบีจะเพิ่มความพยายามดึงการแข่งขันกีฬา ไลฟ์สไตล์ และงานดนตรีระดับโลกมาเพิ่มอีก เช่น คอนเสิร์ตเลดี้กาก้าที่กำลังมาถึง ขณะที่เอลตัน จอห์น และจี ดรากอน แรปเปอร์เคป็อป จะมาแสดงในงานสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ เดือน ต.ค.

โอวกล่าวต่อไปว่า อีกไม่กี่ปีจะมีการเปิดสถานที่ใหม่ๆ เช่น โรงละครใหม่ที่การ์เดนส์บายเดอะเบย์ สนามกีฬาที่มารีนาเบย์แซนด์ส โรงแรมใหญ่สุดของประเทศ ส่วนแฟนบาสเก็ตบอลหนุ่มสาว สิงคโปร์เตรียมเป็นเจ้าภาพ NBA Rising Stars Invitational สำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีเป็นครั้งแรก แถมยังมีเวทีมีทแอนด์กรีทและได้รับการฝึกอบรมแบบเอ็กซ์คลูสีฟ

ข้อมูลจากเอสทีบีชี้ว่า ในปี 2024 ชาวต่างชาติเดินทางมาสิงคโปร์ 16.5 ล้านคน ต่ำกว่าตัวเลข 19.1 ล้านคนในปี 2019 มาก เอสทีบีจึงต้องมองหาตลาดท่องเที่ยวใหม่ เช่น ซาอุดีอาระเบียและคาซัคสถาน เพื่อสร้างความหลากหลายของกลุ่มนักเดินทางที่จะมาสิงคโปร์