'บีวายดี' เบียดแซง 'โตโยต้า' ขึ้นแท่นยอดขายเบอร์ 1 ในสิงคโปร์

BYD แซง Toyota ขึ้นแท่นรถยนต์ขายดีที่สุดเบอร์ 1 ในสิงคโปร์ ได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ นำห่างเกือบ 1,000 คัน และแซงหน้า Tesla เกือบ 6 เท่า
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างข้อมูลจากทางการสิงคโปร์ว่า "บีวายดี" (BYD) ค่ายรถยนต์เบอร์ 1 จากจีน สามารถทำยอดขายในสิงคโปร์แซงหน้า "โตโยต้า มอเตอร์" (Toyota Motor) ค่ายรถยนต์เบอร์ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น ได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากจีนกำลังเร่งเดินหน้ากระตุ้นยอดขายในต่างประเทศ
ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ BYD มียอดขายทั้งหมดอยู่ที่ 3,002 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายรถทั้งหมดในสิงคโปร์ โค่นแชมป์เก่า Toyota ซึ่งอยู่ที่ 2,050 คัน และเทสลา อิงค์ (Tesla) ซึ่งอยู่ที่ 535 คัน
ที่ผ่านมา Toyota นับเป็นเจ้าตลาดในสิงคโปร์ โดยมียอดขายในปีที่แล้วอยู่ที่ 7,876 คัน ชนะ BYD ซึ่งอยู่ที่ 6,191 คัน
ยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งของ BYD ในสิงคโปร์ ตอกย้ำถึงความพยายามของบริษัทในการมุ่งเน้นไปยังตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในจีน
รอยเตอร์สเคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า BYD ตั้งเป้าที่จะขายรถยนต์ครึ่งหนึ่งของตนเอง "นอกตลาดจีน" ภายในปี 2030 ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันกับบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกได้
BYD เข้าสู่ตลาดรถยนต์สำหรับผู้บริโภคในสิงคโปร์ในปี 2022 ซึ่งช้ากว่า Tesla มากกว่า 1 ปี แต่หลังจากนั้นมาก็ได้รายงานตัวเลขยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่ามาก โดยในปี 2023 ยอดขายของค่ายรถยนต์จีนรายนี้เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า เป็น 1,416 คัน ในขณะที่ยอดขายของเทสลา เพิ่มขึ้นเพียง 7% เป็น 941 คันในปีเดียวกัน
รอยเตอร์สระบุว่า BYD ประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว โดยยึดหัวหาด "ประเทศไทย" เป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีแผนที่จะขยายตลาดในยุโรป และละตินอเมริกาด้วย
ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของรถยนต์สูงที่สุดในโลก โดยรถยนต์คอมแพ็ค เอสยูวี อย่าง BYD Atto 3 มีราคาอย่างน้อย 165,888 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 4.25 ล้านบาท) ส่วนคู่แข่งอย่าง Toyota Corolla Altis มีราคาอยู่ที่ประมาณ 170,888 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 4.38 ล้านบาท)
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







