จับตาทริปตะวันออกกลาง ทรัมป์เล็งร่วมวงยูเครน-รัสเซีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทัวร์ประเทศแถบอ่าวเปอร์เซียเป็นเวลาสี่่วัน เน้นทำข้อตกลงเศรษฐกิจมากกว่าวิกฤติความมั่นคง แต่เจ้าตัวแย้มว่า อาจไปร่วมเจรจายูเครน-รัสเซียที่ตุรกี
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ทรัมป์พร้อมคณะนักธุรกิจอเมริกันชั้นนำ เช่น อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสสลาและที่ปรึกษาของเขาเดินทางถึงซาอุดีอาระเบียในวันอังคาร (13 พ.ค.) ร่วมเวทีการลงทุนซาอุดี-สหรัฐ ณ กรุงริยาดเป็นเป้าหมายแรก จากนั้นมุ่งหน้าไปกาตาร์ในวันอังคาร (14 พ.ค.) และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเอี) ในวันพฤหัสบดี (15 พ.ค.)
“แม้พลังงานยังเป็นหมุดหมายหลักในความสัมพันธ์ของเรา โอกาสการลงทุนและธุรกิจในราชอาณาจักรแห่งนี้ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นทบเท่าทวีคูณ ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ เมื่อซาอุดีและอเมริการวมพลังกันสิ่งดีมากๆ ย่อมเกิดขึ้น และบ่อยครั้งที่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นจากการทำงานเป็นทีม” คาลิด อัล ฟาลีห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนซาอุดี กล่าวเปิดการประชุมก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางมาถึง
ที่สนามบินกษัตริย์คาลิดในกรุงริยาด มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน (เอ็มบีเอส) เสด็จไปรับทรัมป์ด้วยพระองค์เองถึงลานจอดเครื่องบิน แตกต่างจากพิธีการทูตที่หน้าที่ต้อนรับประมุขแห่งรัฐหรือแขกผู้มาเยือนต้องเป็นเจ้าชายผู้ว่าการกรุงริยาดไม่ถึงระดับมกุฎราชกุมาร
สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญที่เอ็มบีเอสมีให้กับการมาเยือนของทรัมป์ รวมถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างทั้งคู่ ซึ่งแตกต่างจากการต้อนรับที่เย็นชากับการชนกำปั้นระหว่างเอ็มบีเอสพบกับอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ในเมืองเจดดาห์เมื่อฤดูร้อนปี 2022
ซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐมีสัมพันธ์เหนียวแน่นยาวนานหลายทศวรรษ บนพื้นฐานข้อตกลงแข็งแกร่งว่าราชอาณาจักรแห่งนี้เป็นฝ่ายจัดหาน้ำมัน ส่วนอภิมหาอำนาจรายนี้คอยดูแลความมั่นคงให้
ทริปเยือนสามประเทศตะวันออกกลางคาดว่า สหรัฐ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และยูเออีจะประกาศการลงทุนที่อาจสูงถึงหลักล้านล้านดอลลาร์ ซาอุดีอาระเบียเคยประกาศไปตั้งแต่เดือน ม.ค.ว่าจะลงทุน 6 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐตลอดสี่ปี แต่ทรัมป์กล่าวว่า ตนจะขอให้ลงทุนถึงหนึ่งล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
- เล็งร่วมวงรัสเซีย-ยูเครน
ทริปเยือนตะวันออกกลางครั้งนี้เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งที่ 2 ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระสองของทรัมป์ แว่วๆมา ว่าเจ้าตัวอาจไปร่วมวงเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ตุรกีด้วย
“ถ้าผมคิดว่าจะมีประโยชน์” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.)
“ผมคิดว่าการประชุมระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ตุรกีในวันพฤหัสบดีนี้น่าจะมีผลลัพธ์ที่ดี ผมไม่รู้ว่าจะไปไหนในวันพฤหัสบดี ประชุมเยอะแยะไปหมด แต่ผมกำลังคิดว่าจะบินไปที่นั่นจริงๆ เป็นไปได้ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้”
หลังจากที่ทรัมป์เปรยออกไปไม่นาน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวว่า ประเทศของตน “จะยินดี” กับการมาของทรัมป์ และว่าตนสนับสนุนข้อเรียกร้องของทรัมป์ให้มีการเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย
“มันสำคัญตรงที่ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนการประชุมนี้อย่างเต็มที่ และเราอยากให้เขาหาโอกาสมาตุรกี” เซเลนสกีกล่าวในการแถลงข่าวยามค่ำ
เมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า เขาเตรียมพบปูตินหลังประธานาธิบดีรัสเซียเสนอให้มี “การเจรจาโดยตรง” ในตุรกี ทั้งคู่ไม่เคยเจอกันเลยนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่รัฐบาลมอสโกรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 ทรัมป์จี้ให้ประธานาธิบดียูเครนเห็นชอบกับข้อเสนอของปูติน “ทันที” บั่นทอนความพยายามกดดันให้รัฐบาลมอสโกต้องหยุดยิง นับถึงวันอังคาร มอสโกยังไม่ยืนยันว่า ปูตินหรือเจ้าหน้าที่คนอื่นจะเข้าร่วมเจรจาที่ตุรกี
สุดสัปดาห์ก่อน พันธมิตรยุโรปรายใหญ่ของยูเครนยื่นคำขาดให้รัสเซียต้องเปิดชอบหยุดยิงในยูเครน 30 วันโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่เช่นนั้นต้องโดนคว่ำบาตร “ครั้งใหญ่” รอบใหม่ พันธมิตรยุโรปยืนกรานว่าจะไม่มีการเจรจาก่อนการหยุดยิง
สอดคล้องกับท่าทีของทรัมป์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เรียกร้องให้หยุดยิงในยูเครน 30 วันโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ไม่ได้กำหนดเส้นตาย
“ถ้าไม่เคารพการหยุดยิง สหรัฐและพันธมิตรจะคว่ำบาตรเพิ่มอีก” ทรัมป์เตือน
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมายูเครนและพันธมิตรพยายามโน้มน้าวรัฐบาลทรัมป์ให้เห็นว่า ปูตินไม่ได้ตั้งใจจริง ดังนั้นการที่รัสเซียตกลงหยุดยิงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า รัสเซียจริงจังกับการบรรลุสันติภาพตามที่ประธานาธิบดีสหรัฐต้องการแค่ไหน
ขณะนี้รัฐบาลทรัมป์กำลังไม่พอใจมากขึ้นทุกขณะที่พยายามเป็นคนกลางทำข้อตกลงสันติภาพให้รัสเซียกับยูเครนจนป่านนี้แล้วยังไม่ได้ผล เดือนก่อนมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐถึงกับเอ่ยปากว่า หากไม่มีความคืบหน้า เห็นทีสหรัฐต้อง “มูฟออน”







