ทรัมป์เผย สหรัฐเตรียมยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย - ขายอาวุธซาอุดีอาระเบีย

ทรัมป์เผย สหรัฐเตรียมยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย - ขายอาวุธซาอุดีอาระเบีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มทริปเยือนตะวันออกกลางแบบเซอร์ไพรส์ ด้วยการประกาศว่าสหรัฐ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรยาวนานต่อซีเรีย พร้อมประกาศดีลขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบีย

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ถ้อยแถลงของทรัมป์ เมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.68) เรื่องการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย จะช่วยสนับสนุนประเทศที่แตกสลายเพราะสงครามกลางเมืองนานกว่าสิบปีได้มาก ประธานาธิบดีอาเหม็ด อัล-ชารา เพิ่งโค่นประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ลงไปได้ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ของสหรัฐ จากที่เคยประกาศให้ซีเรียเป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้ายในปี 1979 แล้วถูกคว่ำบาตรในปี 2004 และคว่ำบาตรเพิ่มเติมอีกหลังสงครามกลางเมืองปะทุในปี 2011

นายอาซาด อัล ชิบานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซีเรีย โพสต์ X ว่า แผนการยกเลิกคว่ำบาตรถือเป็นการ “เริ่มต้นใหม่” บนเส้นทางฟื้นฟูบูรณะซีเรีย ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์เห็นชอบทักทายชาราครู่หนึ่งในวันพุธ (14 พ.ค.68) ที่ซาอุดีอาระเบีย

นอกจากนี้ทรัมป์ และมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานของซาอุดีอาระเบียยังลงนามข้อตกลงหนึ่งฉบับ ครอบคลุมทั้งด้านพลังงาน กลาโหม เหมืองแร่ และอื่นๆ โดยที่ทรัมป์พยายามกระชับสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียให้แข็งแกร่งเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ในภูมิภาคกับอิสราเอล และทำหน้าที่เป็นปราการต่อต้านอิหร่านด้วย 

ในโอกาสนี้สหรัฐเห็นชอบขายอาวุธให้กับซาอุดีอาระเบียมูลค่าเกือบ 1.42 แสนล้านดอลลาร์ ถือเป็น “ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหม” ครั้งใหญ่สุดเท่าที่วอชิงตันเคยทำ ข้อตกลงครอบคลุมดีลที่ทำกับบริษัทอาวุธสหรัฐกว่า 12 รายในหลายสาขา เช่น การป้องกันทางอากาศ และขีปนาวุธ, กองกำลังทางอากาศ และอวกาศ, ความมั่นคงทางทะเล และการสื่อสาร

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าดีลนี้รวมถึงเครื่องบิน F-35 ของล็อกฮีดที่แหล่งข่าวหลายรายเผยว่ากำลังหารือกันอยู่หรือไม่ มกุฎราชกุมาร ตรัสว่า ถ้าตกลงกันได้เพิ่มเติมในไม่กี่เดือนข้างหน้าดีลรวมจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ในการแสดงสุนทรพจน์ที่เวทีการลงทุนในกรุงริยาด ทรัมป์ได้สร้างความโกลาหลทางการทูตด้วยเช่นกันโดยกล่าวว่า ตนกำลังขอให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อมกุฎราชกุมาร ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัย

“โอ๊ะ ผมทำอะไรให้มกุฎราชกุมาร” ทรัมป์กล่าว ท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้ฟัง พร้อมเสริมว่าการคว่ำบาตรได้ทำหน้าที่ที่สำคัญ แต่ขณะนี้ถึงเวลาที่ประเทศต้องเดินหน้า

ซาอุดีอาระเบียเป็นลูกค้าอาวุธใหญ่สุดรายหนึ่งของสหรัฐ สองประเทศรักษาสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งมานานหลายสิบปี จากพื้นฐานข้อตกลงที่ว่าซาอุดีอาระเบียเป็นฝ่ายจัดหาน้ำมันให้ ขณะที่สหรัฐคอยดูแลความมั่นคง

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดหลังการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบียผู้มีฐานปฏิบัติการในสหรัฐ โดยสายลับซาอุดีอาระเบียก่อเหตุในอิสตันบูลเมื่อปี 2018 สร้างความไม่พอใจจากทั่วโลก หน่วยข่าวกรองสหรัฐสรุปว่า เจ้าชายบินซัลมานเห็นชอบปฏิบัติการให้จับตัวหรือสังหารนายคาช็อกกี นักวิจารณ์รัฐบาลตัวยง แต่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ระหว่างมาเยือนซาอุดีอาระเบีย และเรียกเจ้าชายว่า “ผู้ชายน่าทึ่ง”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์