เจรจานิวเคลียร์รอบ 4 'อิหร่าน-สหรัฐ' เจอเรื่องยาก แต่ได้ทราบจุดยืนสองฝ่าย

ผลเจรจานิวเคลียร์ทางอ้อมรอบที่ 4 ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ เป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ยังมีประโยชน์เพราะได้ทราบจุดยืนสองฝ่าย
การเจรจานิวเคลียร์ ทางอ้อมรอบที่ 4 ระหว่างอิหร่านและสหรัฐสิ้นสุดลงแล้วในกรุงมัสกัต ประเทศโอมาน กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านเผยเป็นการประชุมที่ยากแต่มีประโยชน์
อัลจาซีรารายงานว่า หลังจากทั้งสองฝ่ายหารือนานสามชั่วโมงในวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) เอลมาอิล บากาอี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านเผยว่า การหารือมีความยากลำบากแต่เป็นการหารือที่มีประโยชน์ ทำให้เข้าใจจุดยืนของกันและกันมากขึ้น และเพื่อหาแนวทางที่สมเหตุสมผลและใช้ได้จริงเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง
โฆษกโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า ทางโอมานจะประสานงานและประกาศการเจรจารอบต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนการหารือรอบที่ 4 อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างระเทศอิหร่าน เผยกับสื่อว่า อิหร่านมีสิทธิตามกฎหมายในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งไม่สามารถทำข้อตกลงใดๆ ได้
อารักชีกล่าวว่า “การเสริมสมรรถนะเป็นหนึ่งในความสำเร็จและเกียรติยศของชาติอิหร่าน เรามีราคาต้องจ่ายที่สูงมากสำหรับการเสริมสมรรถนะ เลือดของนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของเราต้องหลั่งไหลเพื่อความสำเร็จนี้” อารักชีกล่าว โดยอ้างอิงถึงนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกอิสราเอลลอบสังหารในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ปี 2015 ที่ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากดีลดังกล่าวในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรก อนุญาตให้อิหร่านสามารถดำเนินกิจกรรมนิวเคลียร์ระดับพลเรือนต่อไปได้ แต่จำกัดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อป้องกันไม่ให้เตหะรานผลิตระเบิดนิวเคลียร์
นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศอิหร่านบอกด้วยว่า เตหะรานยังคงมุ่งมั่นรักษาคำมั่นสัญญาที่ว่าจะไม่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องหลักของทรัมป์
อารักชียังได้ไปเยือนซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ และพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อประสานงานก่อนการเจรจานิวเคลียร์ครั้งล่าสุดอีกด้วย
ส่วนในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเตหะรานได้แสดงความกังวลต่อคำพูด “ที่ขัดแย้ง” ของคณะเจรจาจากสหรัฐ ซึ่งนำโดยสตีฟ วิตคอฟฟ์ เพื่อนเก่าและนักการทูตของทรัมป์
ขณะที่ในช่วงก่อนเจรจา วิตคอฟฟ์ได้เรียกร้องอีกครั้งให้อิหร่าน “รื้อถอน” โครงการนิวเคลียร์ของตนเองทั้งหมด ซึ่งรวมถึงฐานปฏิบัติการที่สำคัญในนาตันซ์ ฟอร์โดว์ และอิสฟาฮาน
ด้านมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ เสนอว่า อิหร่านจะต้องนำเข้ายูเรเนียมเสริมสมรรถนะ (enriched uranium)
ที่ผ่านมาทรัมป์ ทีมของเขา และอิสราเอล มักขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะโจมตีทางทหารต่ออิหร่านและโครงสร้างพื้นฐานของอิหร่านอย่างรุนแรง หากการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จในเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน อิหร่านเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถึง 60% ซึ่งใกล้เคียงกับ 90% ที่จำเป็นสำหรับการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ แต่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) กล่าวว่า เตหะรานไม่ได้พยายามผลิตอาวุธใดๆ
อ้างอิง: Al Jazeera







