สหรัฐฯ,จีน เผยการเจรจาการค้าที่เจนีวามีความคืบหน้าอย่างมาก

สหรัฐฯ,จีน เผยการเจรจาการค้าที่เจนีวามีความคืบหน้าอย่างมาก

สหรัฐฯ และจีน ประกาศ มีความคืบหน้าอย่างมาก หลังจากการเจรจา 2 วัน ที่สวิตเซอร์แลนด์เพื่อลดระดับความตึงเครียดของสงครามการค้า เตรียมเปิดรายละเอียดผลการเจรจาในวันนี้

บลูมเบิร์ก รายงานว่าสหรัฐฯ และจีน ประกาศว่ามีความคืบหน้าอย่างมาก หลังจากการเจรจา 2 วัน(10-11 พ.ค.) ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดระดับความตึงเครียดสงครามการค้า รองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิงของจีน เปิดเผยว่าเป็น "ก้าวแรกที่สำคัญ" ในการแก้ไขความขัดแย้ง

แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้ประกาศมาตรการที่ชัดเจนในทันทีในวันอาทิตย์ แต่รองนายกฯเหอ กล่าวว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของโลกตกลงที่จะสร้างกลไกสำหรับการเจรจาเพิ่มเติม ซึ่งนำโดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และตัวเขาเอง เบสเซนต์กล่าวว่าสหรัฐฯ จะเปิดเผยรายละเอียดในวันจันทร์นี้ และเหอ สัญญาว่าจะออกแถลงการณ์ร่วมกัน

  • จีนอ้างเป็นข่าวดีของโลก

“อย่างที่เราพูดกันในจีนว่า หากอาหารจานนั้นอร่อย จังหวะเวลาก็ไม่สำคัญ” หลี่ เฉิงกัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เจนีวา “เมื่อใดก็ตามที่มีการเผยแพร่ มันจะเป็นข่าวดีสำหรับโลก”

ผู้แทนเจรจาพยายามแสดงทัศนคติเชิงบวกในการแสดงความคิดเห็นต่อนักข่าว โดยเขาชื่นชมความเป็นมืออาชีพของฝ่ายสหรัฐฯ และจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่าข่าวสงครามทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายอาจเกินจริง

“สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเราสามารถบรรลุข้อตกลงได้รวดเร็วเพียงใด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความแตกต่างอาจไม่มากอย่างที่คิด” กรีเออร์กล่าว “อย่างที่กล่าว มีการหารือกันถึงหลักการพื้นฐานของข้อตกลงมากมายสำหรับสองวันนี้”

  • ตลาดตอบรับข่าว

วันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มสัปดาห์การซื้อขายในเอเชีย ตลาดการเงินตอบรับในเชิงบวก โดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ รวมถึงยูโร เยน และฟรังก์สวิส ดอลลาร์ออสเตรเลียซึ่งถือเป็นตัวแทนความเชื่อมั่นต่อจีนขยับขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเงินหยวนในตลาดต่างประเทศ

“แม้ว่าเราจะยังคงสงสัยว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ในสาระสำคัญใดๆ ได้หรือไม่ หลังจากการเจรจากันเพียงสองวัน แต่ก็ชัดเจนว่าทั้งสองฝ่ายกำลังมองหาทางที่จะคลี่คลายสถานการณ์” วิน ธิน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดโลกของ Brown Brothers Harriman & Co ระบุในบันทึก

ด้านซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับขึ้นกว่า 400 จุด หรือประมาณ 1% ในคืนวันอาทิตย์ตามเวลาในนิวยอร์ก S&P 500 ฟิวเจอร์ และ Nasdaq-100 ฟิวเจอร์ ปรับสูงขึ้น 1.4% และ 1.5 % ตามลำดับ

  • สงครามการค้าสร้างความเสียหายให้ทั้งสองฝ่าย

ความตึงเครียดระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากปักกิ่งเป็น 145% ทรัมป์อ้างภาษีนำเข้าดังกล่าวมีไว้เพื่อจัดการกับจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค้าสารเสพติดเฟนทานิล การที่จีนเกินดุลการค้าครั้งใหญ่กับสหรัฐฯ และตอบโต้มาตรการของปักกิ่งที่บังคับใช้หลังจากทรัมป์เปิดฉากเล่นงานจีน โดยฝ่ายจีนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เพื่อตอบโต้ภาษีการค้าของทรัมป์

การขึ้นภาษีตอบโต้กันทำให้เกิดการเผชิญหน้าโดยไม่มีฝ่ายใดต้องการเปลี่ยนใจและไม่มีทางออกใดๆ ให้เห็น

ในที่สุด ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าการลดความตึงเครียดและภาษีศุลกากรเป็นสิ่งจำเป็น และได้ประกาศการเจรจากันแบบเปิดเผยต่อสาธารณชน

ความกลัวว่าชั้นวางสินค้าจะว่างเปล่าอาจทำให้การประชุมครั้งนี้มีความเร่งด่วน ทรัมป์และทีมเศรษฐกิจของเขาได้รับคำร้องขอจากผู้บริหารธุรกิจค้าปลีก ซึ่งอธิบายในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าผลของภาษีศุลกากรที่สูงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนสินค้าในระดับโรคโควิดระบาดและห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก

ส่วนประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พยายามเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศก่อนการเจรจา แต่ข้อมูลกลับแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของความอ่อนแอ

ทีมสหรัฐฯ เข้าสู่การเจรจาในวันแรก โดยถูกผู้นำของพวกกำหนดท่าทีไว้คร่าวๆ ทรัมป์โพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียล Truth Social ก่อนที่การประชุมจะเริ่มต้นขึ้นว่า “ภาษีศุลกากร 80% สำหรับสินค้าจีนดูจะเหมาะสม!” เขากล่าวเสริมว่า “การตัดสินใจขึ้นอยู่กับ” หัวหน้าคณะกระทรวงการคลังของเขา โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

หลังจากการเจรจาวันแรกสิ้นสุดลง ทรัมป์แสดงความเห็นอีกครั้งผ่านเว็บไซต์ Truth Social เพื่อแสดงความยินดีกับ “ความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่” และกล่าวว่า “มีการตกลงกันหลายอย่าง” ในขณะที่ผู้เจรจายังคงนิ่งเฉยและยังคงเจรจารายละเอียดกันจนดึกดื่น

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า “การเจรจารีเซ็ตใหม่ทั้งหมดดำเนินไปอย่างเป็นมิตรแต่สร้างสรรค์ เราต้องการเห็นการเปิดตลาดจีนให้กับธุรกิจของอเมริกา เพื่อประโยชน์ของทั้งจีนและสหรัฐฯ”

เมื่อวันศุกร์ ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวว่าเขาอาจพูดคุยกับผู้นำจีนหลังการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของเบสเซนต์

สหรัฐฯ และจีนมีข้อตกลงการค้าที่ลงนามกันไปแล้วเมื่อสิ้นสุดวาระแรกของทรัมป์ในเดือนมกราคม 2020 ในเวลานั้น ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงความสำคัญของข้อตกลงว่าเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ และอ้างว่าข้อตกลงนี้ กำลังแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ปักกิ่งให้คำมั่นที่จะซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐฯ เพิ่มเติมมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ และเปิดตลาดให้กับภาคการเกษตรและบริการทางการเงินของสหรัฐฯ

ทรัมป์โจมตีรัฐบาลของโจ ไบเดนมาตลอดว่าไม่บังคับใช้ข้อตกลงดังกล่าวหลังจากที่จีนไม่ทำตามสัญญา