เปิดภารกิจสี จิ้นผิง เยือนมอสโก ให้กำลังใจ‘ปูติน’ไม่โดดเดี่ยว

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เดินทางมาเยือนกรุงมอสโกตั้งแต่วันพุธ ไฮไลท์อยู่ที่การร่วมขบวนสวนสนามรำลึกชัยชนะของสหภาพโซเวียตและสัมพันธมิตร ในช่วงที่สหรัฐพยายามโดดเดี่ยวรัสเซีย
จีนเป็นประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซรัสเซียมากกว่าประเทศอื่น ช่วยต่อชีวิตให้รัฐบาลมอสโกที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรผลจากการทำสงครามในยูเครน การเยือนของผู้นำจีนจึงมีความหมายยิ่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สี เดินทางมาถึงสนามบินวนูโคโว-2 ในกรุงมอสโก เมื่อวันพุธ (7 พ.ค.) ไม่นานหลังจากทางการรัสเซียกล่าวว่า ยิงโดรนยูเครนตกอีกหนึ่งลำที่นอกเมืองหลวง โดยยูเครนใช้โดรนโจมตีกรุงมอสโกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 สนามบินหลักแห่งหนึ่งต้องปิดชั่วคราวเพียงสามชั่วโมงก่อนสีเดินทางมาถึง
วันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) สีเข้าพบ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ทำเนียบเครมลิน
"ชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์ซึ่งได้มาด้วยการเสียสละอันยิ่งใหญ่ มีความสำคัญอย่างยาวนาน เราร่วมกับเพื่อนชาวจีน ปกป้องความจริงทางประวัติศาสตร์อย่างแข็งขัน ปกป้องความทรงจำช่วงสงคราม และต่อต้านสัญลักษณ์ของลัทธิทหารและนาซีใหม่" ปูตินกล่าวกับสี ขณะที่สีตอบกลับว่า สองประเทศในฐานะมหาอำนาจโลกและสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะร่วมมือกันต่อต้าน “ลัทธิกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียวและการรังแก” ซึ่งถ้อยคำนี้หมายถึงสหรัฐ
สีกล่าวด้วยว่า พวกเขาจะ “ร่วมกันส่งเสริมมุมมองที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ปกป้องอำนาจและสถานะของสหประชาชาติ ป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของจีน, รัสเซีย และประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากอย่างแข็งขัน อีกทั้งยังร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม ความเป็นระเบียบ โลกหลายขั้ว และโลภาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม”
การพบปะกันของผู้นำทั้งสองเป็นไปอย่างชื่นมื่นในห้องโถงใหญ่ปูพรมแดงของทำเนียบเครมลิน ช่างภาพไม่พลาดจังหวะที่สีและปูตินจับมือทักทายกันอย่างอบอุ่น ต่างฝ่ายต่างเรียกกันว่า “เพื่อนรัก”
การเยือนของสีเป็นการเพิ่มกำลังใจทางการทูตให้กับปูติน ในช่วงที่ผู้นำรัสเซียอยากแสดงให้เห็นว่า ประเทศของเขาไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวในเวทีโลก ทำเนียบเครมลินคุยอวดเรื่องที่สีและผู้นำโลกอีก 28 คนมาเยือนมอสโกว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของรัสเซียในระดับโลก
วันศุกร์ (9 พ.ค.) สีเป็นผู้นำทรงอำนาจสูงสุดของโลกที่เข้าร่วมขบวนสวนสนาม ณ จัตุรัสแดงในกรุงมอสโกเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี สหภาพโซเวียตและสัมพันธมิตรมีชัยเหนือนาซีเยอรมนี
แต่กระทรวงการต่างประเทศยูเครน แถลงในวันอังคาร (6 พ.ค.) เรียกร้องประเทศต่างๆ ไม่ให้ส่งทหารมาร่วมสวนสนาม ยูเครนกล่าวว่า การมีทหารมาร่วมสวนสนามตรงข้ามกับการที่บางประเทศประกาศว่าเป็นกลางในสงคราม ข้อเรียกร้องของยูเครนดูเหมือนส่งตรงไปให้จีน ที่มีทหารมาร่วมสวนสนามด้วย
สีเคยเรียกร้องให้เจรจายุติสงครามยูเครน และกล่าวหาสหรัฐว่าเติมเชื้อสงครามด้วยการจัดหาอาวุธให้รัฐบาลเคียฟ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ก็เคยขอให้สีพยายามชักชวนปูตินให้หยุดสงคราม
การมาของสีเกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พยายามผลักดันรัฐบาลมอสโกและเคียฟให้หาทางยุติสงครามในยูเครน ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกันว่าเป็นสาเหตุทำให้ไม่มีความคืบหน้า
ในมิติเศรษฐกิจ เนื่องจากจีนกำลังทำสงครามภาษีอยู่กับสหรัฐ วานนี้สีได้ลงนามข้อตกลงจำนวนหนึ่ง เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับมอสโก ที่มองจีนว่าเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของรัสเซียมาโดยตลอด
แม้ช่วงหลังทรัมป์พยายามปรับความสัมพันธ์สหรัฐ-รัสเซียเสียใหม่ แต่ปูตินก็ต้องการแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับสีรวมพลังต้านวอชิงตัน
ในบทความของสีที่เผยแพร่ในสื่อรัสเซียเมื่อวันพุธ สีกล่าวว่า จีนและรัสเซียต้อง “รักษาระเบียบระหว่างประเทศหลังสงครามไว้อย่างแข็งขัน”
“ทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันต่อต้านความพยายามใดๆ ที่จะสร้างความปั่นป่วนและทำลายมิตรภาพความไว้วางใจระหว่างจีนและรัสเซีย”
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เรียกการเยือนมอสโกของสีว่า "“หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนในปีนี้”
ขณะที่ยุน ซุน นักวิเคราะห์การเมืองจีนจากศูนย์สติมสันในกรุงวอชิงตันระบุ
“สงครามโลกครั้งที่ 2 เน้นที่ระเบียบระหว่างประเทศหลังสงคราม และตอนนี้สหรัฐกำลังรื้อถอนหรือทำลายมัน ดังนั้นจีนและรัสเซียจะกำหนดตนเองเป็นผู้ปกป้องระเบียบระหว่างประเทศและระบบสหประชาชาติ คัดค้านเอกภาคีนิยมและความเป็นเจ้าของสหรัฐ”
ยูริ ยูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ปูตินและสี หารือกันในประเด็น “อ่อนไหวที่สุด” เช่น ความร่วมมือด้านพลังงาน และการเสนอสร้างท่อส่งก๊าซ Power of Siberia 2 ไปยังจีน







