‘เวียดนาม’ ประกาศเปิดตัว ‘วีซ่าทองคำ 10 ปี’ มุ่งยกระดับเป็น ‘ฮับท่องเที่ยว’

‘เวียดนาม’ ประกาศศักดา ยกระดับสู่ฮับท่องเที่ยว และการลงทุนแห่งใหม่ในอาเซียน! ด้วยการเปิดตัว ‘วีซ่าทองคำ 10 ปี’ (vietnam golden visa tourism investment) ดึงดูดนักท่องเที่ยวระยะยาว นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบในการขอวีซ่า
“เวียดนาม” ประกาศเปิดตัว “วีซ่าทองคำ” ระยะเวลา 10 ปี (vietnam golden visa tourism investment) เพื่อ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ระยะยาว นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ พร้อมทั้งยกระดับให้เวียดนามกลายเป็นผู้เล่นหลักใน ภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ แผนระยะยาวของเวียดนามคือ การเปลี่ยนภาพลักษณ์จากจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวระยะสั้น ไปสู่การเป็นฮับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยการมอบสิทธิพำนักระยะยาวแบบต่ออายุได้ แก่ผู้ที่มีส่วนสำคัญต่อการท่องเที่ยว นวัตกรรม หรือเศรษฐกิจของประเทศ
กระบวนการขอวีซ่าเวียดนาม กลายเป็นมิตรกับระบบดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับพลเมืองอินเดีย ขณะนี้ วีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ (eVisa) สำหรับการท่องเที่ยว และการเดินทางเพื่อธุรกิจระยะสั้นสามารถดำเนินการได้ทั้งหมดทางออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานทูต การเปิดตัววีซ่าทองคำที่กำลังจะมาถึง ก็คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นอกเหนือจากโอกาสทางเศรษฐกิจแล้ว เวียดนามยังมีไลฟ์สไตล์ที่ผสานเสน่ห์แบบดั้งเดิมเข้ากับความสะดวกสบายสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เมืองต่าง ๆ เช่น โฮจิมินห์ ฮานอย และดานัง เป็นที่รู้จักในด้านความปลอดภัย ค่าครองชีพที่ไม่สูง และทางเลือกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ขุนเขาในสายหมอกของซาปา ไปจนถึงชายหาดที่ญาจาง จากตรอกอาหารริมทางอันคึกคักของฮานอย ไปจนถึงวัดเก่าแก่ในเมืองเว้ เวียดนามพร้อมมอบประสบการณ์ที่เข้าถึงแก่นและหลากหลายให้แก่ผู้ที่เรียกที่นี่ว่าบ้าน
สำหรับ เวียดนาม มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศกว่า 7.67 ล้านคนระหว่างเดือนมกราคม ถึงเมษายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามรายงานจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของเวียดนามเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม
“จีน” ยังคงเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวหลัก โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งหมด 1.95 ล้านคน คิดเป็น 25.4% ของทั้งหมด
รองลงมาคือ สาธารณรัฐเกาหลี ที่มีนักท่องเที่ยว 1.58 ล้านคน (20.6%)
ส่วนตลาดสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไต้หวัน 440,000 คน และสหรัฐ 323,000 คน ขณะที่ ญี่ปุ่น กัมพูชา ออสเตรเลีย อินเดีย มาเลเซีย และไทย ก็อยู่ในกลุ่ม 10 อันดับแรกของแหล่งตลาดนักท่องเที่ยว
การเดินทางมาจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 56.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 18.9% การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยยังพบได้จากไต้หวันที่ 5.2% และสหรัฐที่ 7.2% โดยประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศมีการเติบโตที่น่าสังเกต ฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 98.3% กัมพูชาเพิ่มขึ้น 79.6% และลาวเพิ่มขึ้น 44.7% อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์มีการลดลงเล็กน้อยที่ 0.9%
ส่วนตลาดยุโรปยังคงแสดงการเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะตลาดที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายยกเว้นวีซ่าผ่านทางของเวียดนาม
- สหราชอาณาจักร มีการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว 20.7%
- ฝรั่งเศส (24.7%)
- เยอรมนี (18.8%)
- อิตาลี (32.6%)
- สเปน (12.9%)
- เดนมาร์ก (12.7%)
- สวีเดน (16.3%)
- นอร์เวย์ (11.5%)
- รัสเซียมีการเพิ่มขึ้นที่โดดเด่นถึง 110.9%
ทำให้เป็นตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวกว่า 166,000 คนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีสามประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าระยะสั้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมถึง 31 ธันวาคม ภายใต้โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของเวียดนามในปีนี้ ซึ่งก็มีการเติบโตของนักท่องเที่ยวเช่นกัน ได้แก่ โปแลนด์ที่เพิ่มขึ้น 48.8% สวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 16.6% และสาธารณรัฐเช็กเพิ่มขึ้น 1.5%
สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของเวียดนาม มีแผนที่จะดำเนินการแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับนานาชาติหลัก 7 โครงการในปี 2025 โดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่าง 22 ถึง 23 ล้านคนในปีนี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






