‘บัฟเฟตต์’ ทำ ‘เซอร์ไพรส์’ ประกาศวางมือกลางที่ประชุมผู้ถือหุ้น

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้สร้างอาณาจักรเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ จนเป็นธุรกิจมูลค่ากว่า 1.16 ล้านล้านดอลลาร์ และเจ้าตัวเป็นอภิมหาเศรษฐีโด่งดังเตรียมลงจากตำแหน่งสิ้นปีนี้ หลังบริหารมานานหกทศวรรษ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน บัฟเฟตต์ วัย 94 ปี กล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นเบิร์กเชียร์ ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา เมื่อวันเสาร์ (3 พ.ค.) ว่า นายเกร็ก อาเบล รองประธานฝ่ายธุรกิจที่ไม่ใช่การประกันภัย จะขึ้นมารับหน้าที่ซีอีโอแทนโดยรอการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารบริษัทที่จะประชุมกันในวันอาทิตย์ (4 พ.ค.)
คำประกาศดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้บอร์ดบริหารแม้มีสัญญาณมานานแล้วว่า เขาคือทายาทของบัฟเฟตต์ แม้แต่ตัวอาเบลเองก็ไม่ระแคะระคายมาก่อน มารู้ตัวก็เมื่อการประชุมประจำปีใกล้สิ้นสุดลง
“นั่นคือข่าวเด่นของวันนี้ ขอบคุณที่มา” บัฟเฟตต์กล่าว
เบิร์กเชียร์โตเร็วมากมาตลอดหลายสิบปีภายใต้การกุมบังเหียนของบัฟเฟตต์ในฐานะประธานและซีอีโอ เขาเลือกซื้อกิจการและหุ้นเข้าพอร์ตบริษัทเคียงข้างชาร์ลี มังเกอร์ ที่ปรึกษาผู้ไว้ใจได้และรองประธาน ซึ่งเสียชีวิตในปี 2023 ด้วยวัย 99 ปี
เบิร์กเชียร์ได้เข้าซื้อกิจการหลากหลายที่บัฟเฟตต์มักกล่าวว่าสะท้อนถึงเศรษฐกิจของสหรัฐโดยรวม การเดิมพันเบิร์กเชียร์ก็เป็นการเดิมพันกับอเมริกาเช่นกัน
“โลกทั้งใบเปิดให้เบิร์กเชียร์ โลกให้โอกาสเรามากมาย มากกว่าที่บริษัทส่วนใหญ่จะเอื้อมถึง” บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ในจดหมายประจำปีเผยแพร่เมื่อปี 2015
ตัวเขารับฟังเพื่อนซีอีโอและประธานบริษัทคนอื่นๆ เสมอ และสามารถดึงผู้ถือหุ้นหลายหมื่นคนมาประชุมประจำปีที่โอมาฮาได้ทุกปี
ความสำเร็จในการลงทุนของเขาเห็นได้จาก หุ้นเบิร์กเชียร์เพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 1965-2024 เทียบกับหุ้นใน S&P500 ที่เพิ่มขึ้นราว 10% ทำให้เขามีอำนาจในการซื้อขายหุ้นและสามารถทำดีลกำไรงามกับโกลด์แมนแซคส์และเจเนอรัล อิเล็กทริก ในช่วงเวลาแห่งวิกฤติ







