‘ทรัมป์’ เตรียมคว่ำบาตรเพิ่ม กดดัน 'รัสเซีย' ยอมยุติสงคราม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เตรียมสั่งคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม เพื่อกดดันให้รัสเซียยอมยุติสงครามอย่างเต็มรูปแบบกับยูเครน
ทางการสหรัฐได้กำหมดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียเพิ่ม รวมถึงการคว่ำบาตรทางการธนาคารและพลังงาน เพื่อกดดันให้มอสโกยอมรับความพยายามยุติสงครามยูเครน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเผยกับรอยเตอร์สว่า บริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายการคว่ำบาตร รวมยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียอย่าง “ก๊าซพรอม” (Gazprom) และหน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและภาคการธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่รายนี้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดใดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าทรัมป์จะอนุมัติแผนคว่ำบาตรดังกล่าวหรือไม่ ขณะที่ความเห็นอกเห็นใจที่เคยมีต่อคำแถลงและการกระทำของมอสโก ได้เปลี่ยนไปเป็นความผิดหวังต่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เนื่องจากปูตินยังไม่ยอมรับคำเรียกร้องให้หยุดยิงและเจรจาสันติภาพของทรัมป์
แหล่งข่าวบอกว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกำลังพยายามประสานงานดำเนินการลงโทษรัสเซียเพิ่มเติม และว่าทรัมป์จะเป็นผู้ลงนาม
“เป็นคำเรียกร้องของเขาเอง” เจ้าหน้าที่สหรัฐอีกคนยืนยัน
ด้านเจมส์ ฮิววิตต์ โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติกล่าว “ตั้งแต่เริ่มแรก ประธานาธิบดีได้แสดงเจตนาชัดเจนเกี่ยวกับความมุ่งมั่นให้มีการหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบ” และว่าขอไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดของการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่
ขณะที่กระทรวงการคลังของสหรัฐ ที่ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรส่วนใหญ่ของสหรัฐ ยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นจากรอยเตอร์ส
รอยเตอร์สระบุว่า การอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรใหม่นี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังจากมีการลงนามแร่หายากระหว่างสหรัฐและยูเครนเมื่อวันพุธ (30 เม.ย.) ซึ่งจะบ่งบอกถึงการแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อรัฐบาลเครมลิน
เคิร์ต โวลเกอร์ อดีตทูตสหรัฐประจำนาโต ที่ดำรงตำแหน่งผู้แทนพิเศษสหรัฐสำหรับการเจรจาเรื่องยูเครนในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรกบอกว่า "ทรัมป์พยายามอย่างเต็มที่ในการให้โอกาสทุกอย่างเพื่อให้ปูตินพูดว่า ‘โอเค เราจะหยุดยิงและยุติสงคราม’ แต่ปูตินกลับปฏิเสธเขาอยู่เรื่อย นี่จึงเป็นขั้นต่อไปในการกดดันรัสเซีย"
โวลเกอร์บอกด้วยว่า ปูตินกำลังเพิ่มระดับความรุนแรง
"ขณะนี้ทรัมป์สามารถทำให้สหรัฐและยูเครนเห็นพ้องต้องกันแล้ว และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีและเต็มรูปแบบ แต่ตอนนี้ปูตินแปลกแยก” โวลเกอร์ กล่าว
นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2565 สหรัฐและพันธมิตรได้ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหลายระดับ แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่มอสโกก็พยายามหาทางหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรและยังคงให้เงินทุนสนับสนุนสงครามต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์สรายงานเมื่อเดือนมี.ค. ว่า สหรัฐเตรียมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียแล้ว แต่สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้แสดงความผิดหวังต่อการที่ปูตินยืดเวลายุติการรุกราน โดยโพสต์ในทรูธโซเชียลเมื่อวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ว่าเขากำลัง “พิจารณามาตรการคว่ำบาตรธนาคาร มาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ รวมถึงมาตรการภาษีต่อรัสเซียอย่างจริงจัง” ซึ่งอาจจะดำเนินการจนกว่าจะมีการหยุดยิงและบรรลุข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้าย
อ้างอิง: Reuters







