ญี่ปุ่นจ่อหงายไพ่ 'พันธบัตรสหรัฐ' ใช้ต่อรองเจรจาการค้าทรัมป์

ญี่ปุ่นจ่อหงายไพ่ 'พันธบัตรสหรัฐ' ใช้ต่อรองเจรจาการค้าทรัมป์

รมว.คลังญี่ปุ่นแย้ม โตเกียวก็มี 'พันธบัตรสหรัฐ' เป็น 'ไพ่ในมือ' ที่อาจใช้เจรจาต่อรองการค้ากับสหรัฐได้ ในฐานะเจ้าหนี้เบอร์ 1 ด้านนักวิเคราะห์มองเป็นเกมเสี่ยง

คัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยกับทีวีโตเกียวว่า การที่ญี่ปุ่นถือครอง "พันธบัตรสหรัฐ" อาจเป็นไพ่ในมือของญี่ปุ่นที่ใช้ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุดในโลก โดยมีเจ้าหนี้รองลงมาคือจีน

“เรามีไพ่ในมืออยู่” คาโตะกล่าวเมื่อถูกถามว่าญี่ปุ่นจะใช้จุดยืนที่ไม่เทขายพันธบัตรสหรัฐ เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐได้หรือไม่ “ทว่าการที่เราจะใช้ไพ่ใบนั้นหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า แม้ว่าความเห็นดังกล่าวจะเป็นเพียงการตอบคำถามและไม่ได้แสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจะขายพันธบัตรสหรัฐที่ถืออยู่ก็ตาม แต่ก็ถือเป็นการเปิด "ความเป็นไปได้" ที่อาจจะทำให้ตลาดเกิดภาวะผันผวนอย่างรุนแรงหากมีการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง

“นี่เป็นกลยุทธ์ที่ซีเรียสมากที่จะหารือกันในที่สาธารณะ” เคที โจนส์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตราสารหนี้ของ Charles Schwab ในนิวยอร์กกล่าว 

“ความเสี่ยงจากกลยุทธ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดพันธบัตรได้ แต่ฉันคิดว่าทีมกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นฉลาดพอที่จะรู้ว่าการทำตามกลยุทธ์ดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจของตัวเอง” โจนส์กล่าว

ทางด้านปฏิกิริยาเบื้องต้นของเทรดเดอร์ในตลาดพันธบัตรช่วงเช้าวันศุกร์ยังเป็นไปอย่างสงบ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยในช่วงเช้าของการซื้อขายในเอเชีย และตลาดการเงินญี่ปุ่นก็มีการเคลื่อนไหวที่ซบเซาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การที่ญี่ปุ่นมีอำนาจต่อรองในตลาดนั้นน่าจะทำให้นักลงทุนกังวลใจอยู่บ้าง เนื่องจากญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอยู่ราว 1.13 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นับเป็นผู้ถือครองรายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 รองลงมาคือ จีน ซึ่งถือพันธบัตรสหรัฐอยู่ 784,000 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐ 

การให้ความเห็นของรมว.คลังญี่ปุ่นครั้งนี้ถือเป็นข่าวใหญ่ที่หลายฝ่ายจับตา เนื่องจากโดยปกติแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นมักจะระมัดระวังท่าทีในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพันธบัตร ซึ่งการสื่อสารที่ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสมออกมาอาจส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างคาดไม่ถึง นอกจากนี้ ตลาดพันธบัตรสหรัฐเองก็เพิ่งเผชิญความผันผวนอย่างหนักมาเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากนักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อความเสี่ยงสงครามการค้าที่เพิ่มขึ้น