ไต้หวันเตรียมรำลึกสิ้นสุดสงครามโลก ผลงานจีนคณะชาติไม่ใช่จีนคอมมิวนิสต์!

ไต้หวันเตรียมรำลึกสิ้นสุดสงครามโลก ผลงานจีนคณะชาติไม่ใช่จีนคอมมิวนิสต์!

แหล่งข่าวเผย สัปดาห์หน้าไต้หวันจะจัดรำลึกสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรปเป็นครั้งแรก ตอกย้ำว่าความก้าวร้าวจะต้องโดนกำราบ ในช่วงที่จีนเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อไต้หวันมากขึ้นทุกขณะ

แหล่งข่าวสี่รายเผยกับรอยเตอร์สว่า วันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ค.ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อจะแสดงสุนทรพจน์ต่อหน้าทูตานุทูตและแขกผู้มีเกียรติในวาระครบรอบ 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานจะจัดขึ้นที่เรือนรับรองไทเป ทำเนียบผู้ว่าการสมัยที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวันยุคอาณานิคมซึ่งสิ้นสุดลงในปี 1945

นี่จะเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันจัดงานอย่างเป็นทางการ รำลึกชัยชนะสงครามในยุโรป โดยคาดว่าไล่จะเชิญมิตรของไต้หวันมารวมตัวกันท่ามกลางความก้าวร้าวจากจีน รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือที่เพิ่มมากขึ้นทุกที

“ชัยชนะในสงครามโลกครั้ง 2 มาจากความเป็นหนึ่งเดียวกันของประเทศทั้งหลาย และความสำคัญอยู่ที่จะเป็นการบอกให้ทราบว่า ความก้าวร้าวต้องพ่ายแพ้ ประเทศรักสงบทั้งหมดนี้ต้องสามัคคีกัน” แหล่งข่าวระบุและว่า ไล่จะเตือนโลกว่า ขณะนี้ประเทศประชาธิปไตยกำลังเผชิญภัยคุกคามแบบเดียวกับเมื่อ 80 ปีก่อน โดยยกตัวอย่างความก้าวร้าวทางทหารของจีน การระดมบีบบังคับทางการเมืองและใช้ข้อมูลเท็จต่างๆ นานา

แหล่งข่าวเผยด้วยว่า งานของไล่ในสัปดาห์หน้าจะเป็นการทวงคืนวาทกรรมเกี่ยวกับสงครามจากจีนด้วย

“ไล่มีสำนึกทางประวัติศาสตร์รุนแรงมาก” แหล่งข่าวกล่าวโดยชี้ถึงความเห็นเก่าๆ ของเขารวมถึงเมื่อปีที่แล้ว ที่ไล่กล่าวว่า ถ้าจีนอ้างเรื่องบูรณภาพแห่งดินแดนกับไต้หวัน ก็ควรไปเอาดินแดนคืนจากรัสเซีย ที่ราชวงศ์สุดท้ายของจีนลงนามเอาไว้ในศตวรรษที่ 19

ไล่ซึ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ค.ปีก่อน ถูกรัฐบาลปักกิ่งประณามว่าเป็น “พวกแบ่งแยกดินแดน” เขากล่าวว่า มีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง

น่าสังเกตว่า ตั้งแต่ต้นปีไต้หวันพยายามฉายภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นบทเรียนให้จีนรู้ว่า ทำไมความแข็งกร้าวรุกรานจะจบลงด้วยความล้มเหลว และเป็นการโต้กลับวาทกรรมของปักกิ่งว่า ชัยชนะในสงครามไม่ใช่ของพรรคคอมมิวนิสต์

จะว่าไปแล้วสงครามโลกครั้งที่ 2 และการรุกรานจีนเต็มตัวของญี่ปุ่นในปี 1937 ก่อนสงครามโลกปะทุขึ้นในปี 1939 เป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่โดนใจทั้งจีนและไต้หวัน

รัฐบาลจีนในขณะนั้นคือสาธารณรัฐจีนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยสหรัฐและอังกฤษ กองทัพสาธารณรัฐจีนต่อสู้ต้านญี่ปุ่นอย่างหนัก ยอมพักสงครามกลางเมืองกับคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตงไว้ก่อน ซึ่งกองกำลังคอมมิวนิสต์ก็ต่อสู้กับญี่ปุ่นเช่นกัน

ต่อมาในปี 1949 รัฐบาลสาธารณรัฐจีนพ่ายแพ้ต่อเหมา ต้องหนีไปอยู่เกาะไต้หวันแต่ยังคงใช้ชื่อทางการว่า สาธารณรัฐจีน

รอยเตอร์สสอบถามไปยังสำนักประธานาธิบดีไต้หวัน ยังไม่ให้ความเห็น ครั้นสอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศจีน ถึงการตีความสงครามของไต้หวันและงานรำลึกที่กำลังจะจัด กระทรวงกล่าวว่า “การบิดเบือนประวัติศาสตร์ บิดเบือนข้อเท็จจริง เผยแพร่ความเท็จและข้ออ้างผิดๆ” เป็นกลอุบายที่พรรครัฐบาลไต้หวันใช้มานาน

“การนำกลับมารวมกับมาตุภูมิและฟื้นฟูชาติ เป็นวิธีรำลึกชัยชนะในสงครามที่ดีที่สุด” กระทรวงต่างประเทศจีนระบุ

  • คาด'สี จิ้นผิง'ไปร่วมรำลึกที่มอสโก

หนึ่งวันหลังไล่แสดงสุนทรพจน์กับทูตานุทูตต่างชาติ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจัดพิธีสวนสนามในกรุงมอสโก รำลึกวาระสำคัญนี้เช่นกัน รัฐบาลรัสเซียเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะมาร่วมพิธีด้วย