นายกฯ สิงคโปร์ขอเสียงโหวตเตอร์เลือก ครม.เดิมรับมือสหรัฐ-จีน

นายกฯ สิงคโปร์ขอเสียงโหวตเตอร์เลือก ครม.เดิมรับมือสหรัฐ-จีน

นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง วอนชาวสิงคโปร์ลงคะแนนให้ผู้สมัครที่สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลสหรัฐและจีน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ในการหาเสียงวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันเสาร์ (3 พ.ค.) นายกฯ ลอว์เรนซ์ หว่อง หาเสียงกับสภาพแรงงานที่มีสมาชิกแข็งแกร่ง 1.4 ล้านคน เตือนถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงตกงานหากภาษีสหรัฐฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจโลก พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ซึ่งพึ่งพาการค้าเป็นหลักอาจเกิดภาวะถดถอย

“เราต้องเตรียมใจว่าจะเจอแรงกดดันมากขึ้น และการฟันฝ่าแรงกดดันเหล่านี้ ต้องใช้ประสบการณ์และทักษะ ต้องใช้คนในรัฐบาลที่สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคู่เจรจาทั้งอเมริกาและจีน” หว่องกล่าวและว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำเป็นต้องเลือกทีมของเขากลับมาทั้งหมด เพื่อให้รับมือกับแรงต้านทานทางเศรษฐกิจที่ว่ามา

“ผมมีตัวช่วย ผมมีกองหนุน แน่นอน แต่ทุกคนรู้ดีว่าทีมจะทำงานได้ไม่เหมือนเดิม ถ้า ครม.ชุดหน้าขาดคนสำคัญบางคนไป” หว่องกล่าว หมายถึงรองนายกรัฐมนตรีกัน คิมยง ที่ได้รับการเสนอชื่อนาทีสุดท้ายลงแข่งในเขตเลือกตั้งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศที่การแข่งขันดุเดือด ทั้งนี้ก็เพื่อสกัดพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ การเลือกตั้งครั้งก่อนทำผลงานได้ถึง10 ที่นั่ง

การหาเสียงล่าสุดจึงเน้นที่รองนายกฯกัน ผู้เป็นหน้าใหม่ในเขตนี้ หลังจากผู้สมัครของพรรคกิจประชาชน (พีเอพี)เรียกทีมผู้สมัครฝ่ายค้านว่าเป็นคนแปลกหน้า จึงถูกสวนกลับว่านายกันต่างหากที่เป็นคนแปลกหน้าตัวจริง

นายกฯ หว่อง สนับสนุนนายกันสุดๆ เรียกเขาว่า “เจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ” เพราะนายกันเป็นประธานร่วมคณะทำงานร่วมโควิด-19 และตอนนี้เป็นประธานคณะทำงานด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ คอยรับมือผลกระทบจากภาษีสหรัฐ

“คนสำคัญที่ทำงานนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับคุณ เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าของสิงคโปร์ทั้งประเทศ” หว่องหาเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นบททดสอบแรกของเขา หลังขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพีเอพีเมื่อปีก่อน ต่อจากนายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุง ผู้ครองอำนาจมายาวนาน

คืนนี้หกพรรคการเมืองและหนึ่งผู้สมัครอิสระมีกำหนดหาเสียงวันสุดท้าย ที่ทุกคนออกหมัดเด็ดเต็มที่ ก่อนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2.76 ล้านคนมีหน้าที่ต้องออกไปลงคะแนนในวันเสาร์ (3 พ.ค.) สิ้นสุดฤดูกาลหาเสียงเก้าวัน ในวันศุกร์ (2 พ.ค.) ไม่อนุญาตให้หาเสียงอีกแล้ว