สหรัฐฯ-ยูเครนลงนามข้อตกลงทรัพยากร แร่หายาก หลังเจรจาตึงเครียด

สหรัฐฯ-ยูเครนลงนามข้อตกลงทรัพยากร แร่หายาก หลังเจรจาตึงเครียด

สหรัฐฯ และยูเครนบรรลุข้อตกลงเรื่องการให้สิทธิสหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน ถือเป็นการให้หลักประกันในระดับหนึ่งแก่รัฐบาลยูเครนในการแผนยุติสงคราม

บลูมเบิร์ก รายงานว่าเมื่อวันพุธ( 30 เม.ย.) สหรัฐฯ และยูเครนบรรลุข้อตกลงเรื่องการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ซึ่งถือเป็นการให้หลักประกันในระดับหนึ่งแก่เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟ ซึ่งเกรงว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะถอนการสนับสนุนการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย

ข้อตกลงดังกล่าวจะให้สิทธิพิเศษแก่สหรัฐฯ ในการเข้าถึงโครงการลงทุนใหม่ๆ เพื่อพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน รวมถึงอะลูมิเนียม กราไฟต์ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ยูเครนยังมีแร่ลิเธียม  และแมงกานีส ซึ่งใช้ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ ในการผลักดันให้ยุติสงครามที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อรัสเซียบุกโจมตีเต็มรูปแบบเมื่อกว่า 3 ปีก่อน

“ข้อตกลงนี้ส่งสัญญาณชัดเจนต่อรัสเซียว่ารัฐบาลทรัมป์มุ่งมั่นที่จะดำเนินกระบวนการสันติภาพโดยยึดยูเครนเป็นประเทศที่เสรี มีอำนาจอธิปไตย และเจริญรุ่งเรืองในระยะยาว” สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวในแถลงการณ์ “และเพื่อให้ชัดเจน รัฐหรือบุคคลที่ให้ทุนหรือจัดหาเครื่องจักรสงครามของรัสเซียจะไม่ได้รับอนุญาตให้ได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูยูเครน”

  • ยูเครนร่ำรวยไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุ

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า พันธมิตรของเคียฟจับตามองทรัพยากรแร่ธาตุของประเทศมานานแล้ว ยูเครนมีแหล่งแร่ธาตุ 22 ชนิดจาก 50 ชนิดที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ จัดให้เป็นทรัพยากรที่สำคัญ

ธาตุหายากที่สำคัญที่ยูเครนมีแหล่งสำรอง  แลนทานัม ซีเรียม นีโอดิเมียม และดิสโพรเซียมจำนวนมาก การประยุกต์ใช้งาน ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญต่อการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การป้องกันประเทศ อวกาศ และพลังงานหมุนเวียน

การผลิตแร่ธาตุหายากและวัสดุอื่นๆ ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ทั่วโลกถูกครอบงำโดยจีนมายาวนาน ทำให้ประเทศตะวันตกต้องดิ้นรนหาแหล่งทางเลือกอื่นๆ รวมถึงยูเครน

 

บันทึกความเข้าใจที่จัดทำขึ้นภายใต้การบริหารของไบเดนเมื่อปีที่แล้วระบุว่า สหรัฐฯ จะส่งเสริมโอกาสในการลงทุนในโครงการขุดแร่ของยูเครนให้กับบริษัทอเมริกัน เพื่อแลกกับการที่เคียฟสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจและนำแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อมที่ดีมาใช้

ยูเครนมีข้อตกลงที่คล้ายกันนี้กับสหภาพยุโรปแล้ว ซึ่งลงนามในปี 2021

 

  • จัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาและฟื้นฟูยูเครน

รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของยูเครน ยูเลีย สวีรีเดนโก โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า “เราและสหรัฐฯ กำลังร่วมกันจัดตั้งกองทุนที่จะดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาในประเทศของเรา”

ในคืนวันพุธ ทรัมป์กล่าวว่าเขาบอกกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เมื่อทั้งคู่เข้าร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสที่นครวาติกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วว่า “ผมบอกเขาว่ามันเป็นเรื่องดีมาก หากเราสามารถบรรลุข้อตกลงที่คุณลงนามได้”

พิธีลงนามในวันพุธถือเป็นการปิดฉากการเจรจาที่ขัดแย้งกันมานานหลายสัปดาห์ และดึงให้ทั้งสองประเทศกลับมาประสานรอยร้าว เซเลนสกีเดินทางมาที่วอชิงตันในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อลงนามข้อตกลงด้านทรัพยากร แต่กลับบ้านมือเปล่าหลังจากที่เขามีปากเสียงกับทรัมป์และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ที่ห้องทำงานรูปไข่ ขณะที่กล้องกำลังจับภาพ

ข้อตกลงดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จในขณะที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งครบ 100 วันแรก และอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องมีผลงานมาแสดง เนื่องจากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าความนิยมในตัวเขาลดน้อยลง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของเขา นอกจากนี้ เขายังรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่จะหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในยูเครนและกาซาได้อย่างรวดเร็ว

ภายใต้ข้อตกลงนี้ สหรัฐฯจะมีสิทธิ์ได้รับกำไรก่อนฝ่ายอื่น จากรายได้ที่โอนไปยังกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟูพิเศษที่ทั้งสองประเทศจะร่วมกันบริหาร ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดประสงค์ส่วนหนึ่งเพื่อใช้หนี้เงินช่วยเหลือทางทหารในอนาคตของสหรัฐฯ ที่จะให้แก่ยูเครน โดยกองทุนดังกล่าวจะได้รับเงินทุน 50% จากรายได้จากใบอนุญาตใหม่ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่สำคัญ การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ

วอชิงตันยังยอมรับเจตนาของเคียฟในการจัดทำข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับแผนการเข้าร่วมสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นเส้นแดงสำหรับยูเครนในการเจรจามาโดยตลอด

  • ข้อตกลงไม่ได้ระบุการรับประกันความมั่นคงของยูเครน

คำถามมากมายยังคงเกิดขึ้นเกี่ยวกับขอบเขตการสนับสนุนในอนาคตของสหรัฐฯ รวมถึงว่าทรัมป์จะส่งอาวุธและกระสุนเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งยูเครนเคยพึ่งพาในการต่อสู้กับรัสเซีย ข้อตกลงนี้ไม่ได้ให้การรับประกันความปลอดภัยโดยตรงจากสหรัฐฯ 

แม้ว่า สวีรีเดนโก จะกล่าวในโซเชียลมีเดียว่าข้อตกลงนี้ “ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ต่อความมั่นคง การฟื้นฟู และการสร้างยูเครนใหม่”

แม้ว่ารัฐสภาไม่น่าจะจัดสรรเงินใหม่สำหรับยูเครนเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรรไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือสหรัฐฯ จะต้องแบ่งปันข่าวกรองให้ยูเครนต่อไปซึ่ง “โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถทดแทนได้” ชาร์ลส์ ลิชฟิลด์รองผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐศาสตร์ภูมิรัฐศาสตร์ของ Atlantic Council ในวอชิงตันกล่าว