'อินเดีย' ปิดสถานที่ท่องเที่ยวในแคชเมียร์ กว่า 50% จ่อยกระดับความปลอดภัยเพิ่ม

'อินเดีย' ปิดสถานที่ท่องเที่ยวในแคชเมียร์ กว่า 50% จ่อยกระดับความปลอดภัยเพิ่ม

อินเดียสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าครึ่งในภูมิแคชเมียร์ ตั้งแต่วันอังคาร (29 เม.ย.) เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ตามเอกสารของรัฐบาลที่รอยเตอร์สได้ตรวจสอบ ระบุว่า รัฐบาลเขตจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย ตัดสินใจปิดสถานที่ท่องเที่ยว 48 แห่ง จากทั้งหมด 87 แห่งในแคชเมียร์ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เหลือ หลังจากเกิดเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางการยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาปิดบริการที่แน่ชัด และเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่แสดงความคิดเห็นทันทีที่รอยเตอร์สติดต่อไป

ขณะนี้ยังคงมีการยิงปืนปะทะกันเพิ่มขึ้นตามแนวชายแดนยาว 740 กิโลเมตร (460 ไมล์) ที่คั่นระหว่างพื้นที่แคชเมียร์ของอินเดียและปากีสถาน และในวันอังคารเป็นวันที่ห้าติดต่อกันแล้วที่กองทัพอินเดียเผยว่าได้ตอบโต้การยิงปะทะจากฐานทัพหลายแห่งของปากีสถานในช่วงเที่ยงคืน

อย่างไรก็ตาม กองทัพอินเดียไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม และไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่กองทัพปากีสถานยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ

คาวาจา มูฮัมหมัด อาซิฟ รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถาน กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ (28 เม.ย.) ว่า อินเดียจะโจมตีทางทหารในเร็วๆ นี้ และได้ส่งกำลังเสริมเพื่อเตรียมพร้อมแล้ว

ทั้งีน้ หลังจากเกิดเหตุโจมตีนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่และผู้รอดชีวิตเผยว่า ขณะบุกโจมตีคนร้ายแยกเหยื่อผู้ชายออกไป ถามชื่อและมุ่งโจมตีผู้นับถือศาสนาฮินดู จากนั้นยิงพวกเขาในระยะใกล้ๆ ในพื้นที่พาฮาลกัม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย

ทางการอินเดียระบุว่า ผู้ก่อเหตุ 2 ใน 3 เป็นผู้ก่อการร้ายจากปากีสถานที่ก่อกบฏอย่างรุนแรงในแคชเมียร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ส่วนใหญ่ ด้านปากีสถานปฏิเสธการมีส่วนร่วมใดๆ และเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นกลาง

อินเดีย ประเทศที่ประชากรนับถือศาสนาฮินดูเป็นส่วนใหญ่ ได้กล่าวโทษปากีสถาน ซึ่งเป็นปนะเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ ว่า ให้ทุนสนับสนุนการก่อความไม่สงบในแคชเมียร์ ซึ่งเป็นภูมิภาคหิมาลัยที่ทั้งสองชาติต่างอ้างสิทธิ์ทั้งหมด แต่ยังคงแบ่งกันปกครองเพียงบางส่วน และความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้านทั้งสองได้เพิ่มขึ้น หลังจากมีการโจมตีนักท่องเที่ยวไม่นานมานี้ และมีเสียงเรียกร้องให้อินเดียดำเนินการต่อต้านปากีสถาน

ด้านรัฐบาลอิสลามาบัดกล่าวว่า ให้การสนับสนุนทางศีลธรรมและการทูตตามคำเรียกร้องของชาวแคชเมียร์ที่ต้องการกำหนดชะตาของตนเองเท่านั้น

ทั้งนี้ รัฐบาลนิวเดลีและอิสลามาบัดได้ใช้มาตรการต่างๆ ตอบโต้กัน นับตั้งแต่มีการโจมตีในแคชเมียร์ โดยอินเดียได้ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ส ซึ่งเป็นข้อตกลงแบ่งปันแม่น้ำที่สำคัญ ขณะที่ปากีสถานได้ปิดน่านฟ้าไม่ให้สายการบินอินเดียเดินทางเข้าไป

ทั้งนี้ แคชเมียร์ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยที่มียอดเขาสูง มีหุบเขาและมีสวนอันงดงามของสมัยราชวงศ์โมกุล ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอินเดีย เนื่องจากความรุนแรงในภูมิภาคลดน้อยลงในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การโจมตีที่เมืองพาฮาลกัมทำให้บรรดานักท่องเที่ยวที่ตื่นตระหนกต่างเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวไปที่อื่นแทนในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนที่มักจะมีนักท่องเที่ยวคึกคัก

 

อ้างอิง: Reuters