‘เนต้า’ หนี้ท่วมโบกมือลาสิงคโปร์ เหลือ‘ไทย’ฐานใหญ่สุดอาเซียน

‘เนต้า’ หนี้ท่วมโบกมือลาสิงคโปร์ เหลือ‘ไทย’ฐานใหญ่สุดอาเซียน

“เนต้า ออโต้” โบกมือลาตลาดสิงคโปร์เงียบๆ ในเวลาไม่ถึง 3 เดือน หลังปัญหาการเงินรุมเร้า เดินเกมหันกลับพึ่ง “ประเทศไทย” ฐานสุดท้ายในอาเซียน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท “เนต้า ออโต้” (NETA Auto) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนได้ “ปิดโชว์รูม” แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศ “สิงคโปร์” ลงแล้ว หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยปิดกิจการไปอย่างเงียบๆ ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือน ท่ามกลางปัญหาทางการเงินที่กำลังรุมเร้าบริษัท

เว็บไซต์ AFMA รายงานว่า เนต้า ออโต้ เพิ่งเปิดตัวในประเทศสิงคโปร์ไปเมื่อ เดือน ม.ค.2568 กับรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นคือ NETA X และ NETA AYA ในงานสิงคโปร์ มอเตอร์ โชว์ 2025 ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยในประเทศแล้ว โดยเบื้องต้นทางบริษัทคาดหวังว่า สิงคโปร์จะช่วยเพิ่มการขยายฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น

รายงานระบุว่า เนต้าได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้า 52 คันในช่วงเปิดตัว อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีรถยนต์ของเนต้าที่จดทะเบียนแล้วเพียง 4 คันเท่านั้น ปัจจุบันเนต้าเริ่มหมดความนิยมและออกจากตลาดสิงคโปร์ไปแล้วอย่างเงียบๆ

ทางด้านเดอะ บิสเนส ไทม์ส สื่อในสิงคโปร์รายงานว่า ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจโชว์รูมแห่งเดียวของเนต้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และพบว่า โชว์รูมปิดตัวลงแล้วโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบิสเนส ไทม์สได้ติดต่อไปยังเนต้าและบริษัท Evology Automobile ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในสิงคโปร์ เพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ

เนื่องจากสำนักงานในสิงคโปร์ปิดตัวลง เส้นเลือดหลักที่เหลืออยู่ของเนต้าในภูมิภาคอาเซียนจึงอยู่ที่ “ประเทศไทย” ซึ่งเป็นฐานสำคัญในการผลิตและส่งออกของเนต้า โดยเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา บริษัทเนต้า ออโต้ ประเทศไทย ได้รับวงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาทจากบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และได้ให้คำมั่นว่าจะกลับมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอีกครั้งในเดือนมิ.ย. 2568 หลังจากที่ได้พยายามชำระหนี้กับบริษัทซัพพลายเออร์แล้ว

วิกฤติที่เกือบล้มละลาย

นอกจากการปิดตัวลงในตลาดสิงคโปร์แล้ว เนต้าซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์อีวีราคาประหยัดภายใต้เครือของบริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ก็กำลังเผชิญมรสุมที่ร้ายแรงกว่าในประเทศแม่อย่าง “ตลาดจีน” ด้วย

เว็บไซต์คาร์นิวส์ไชน่ารายงานว่าในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ยอดขายของเนต้าลดลงถึง 98% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีก่อน และบริษัทยังมีหนี้สูงถึง 1 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.6 หมื่นล้านบาท) ทำให้ ณ จุดนี้อาจกล่าวได้ว่าบริษัทใกล้จะล้มละลายเต็มที

เนื่องจากยอดขายที่ชะลอตัวลงอย่างมากในจีน และปัญหาทางการเงินที่รุนแรง บริษัทจึงถูกบังคับให้ปรับโครงสร้างแผนการจ่ายเงินเดือนภายใน และลดเงินเดือนพนักงานลง 75% นอกจากนี้ เนต้ายังต้องปิดโรงงานในมณฑลเจ้อเจียงเมื่อปี 2567 และยุบทีมวิจัยและพัฒนาลงด้วย

ทั้งนี้ เนต้าประสบภาวะขาดทุนสูงถึง 1.72 หมื่นล้านหยวน (ราว 7.95 หมื่นล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2564 - 2567 และพนักงานที่ลาออกตั้งแต่ต้นปี 2566 ยังคงไม่ได้รับค่าจ้าง ในขณะที่ซัพพลายเออร์หลายรายของบริษัทได้ออกมาประท้วงที่สำนักงานของเนต้าในเซี่ยงไฮ้ โดยเรียกร้องให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระ อย่างไรก็ตาม นายซูน เปาหลง ผู้จัดการทั่วไปของเนต้า ออโต้ ประเทศไทย อ้างว่าทางแบรนด์ได้ชำระหนี้ในประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว

นายฝาง หยุนโจว ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ประกาศว่า เนต้าจะยังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศเพื่อทำกำไรภายในปี 2568 ทว่านอกจากสิงคโปร์แล้ว บริษัทยังประสบปัญหาในมาเลเซียอีกด้วย โดยในมาเลเซียมีรายงานว่ามีรถยนต์ของเนต้าจดทะเบียนเพียง 271 คันในปี 2567 และ 16 คันในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2568 ในทางตรงกันข้าม เนต้าทำยอดขายได้สูงกว่ามากในประเทศไทย โดยมียอดขาย 7,969 คันจนถึงปัจจุบัน