‘เกาหลีเหนือ’ คอนเฟิร์ม ส่งทหารช่วยรัสเซียรบยูเครน ชี้ 'กองทัพคือฮีโร่'

เกาหลีเหนือ ยืนยันเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (28 เม.ย.68) ว่า ได้ส่งกองทัพไปรัสเซียช่วยสู้รบกับยูเครน ภายใต้คำสั่งของผู้นำคิม จองอึน และช่วยให้รัสเซียควบคุมดินแดนที่ถูกยึดครองได้อีกครั้ง
เกาหลีเหนือ ยืนยันเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (28 เม.ย.68) ว่า ได้ส่งกองทัพไปรัสเซียเพื่อสู้รบในสงครามยูเครน ภายใต้คำสั่งของผู้นำคิม จองอึน และได้ช่วยให้รัสเซียกลับมาควบคุมดินแดนที่ถูกยูเครนยึดครองได้อีกครั้ง
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงาน อ้างอิงแถลงของพรรครัฐบาล ระบุว่า ชัยชนะจากการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย แสดงให้เห็นถึง “ยุทธศาสตร์ระดับสูงสุดของมิตรภาพอันแข็งแกร่งระหว่างเกาหลีเหนือ และรัสเซีย”
รัสเซียรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กองทัพยูเครนได้ล่าถอยออกจากหมู่บ้านรัสเซียแห่งสุดท้ายที่พวกเขายึดครอง แต่รัฐบาลเคียฟปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว และว่า กองทัพของตนยังคงปฏิบัติการในเขตแดนรัสเซียบางส่วน
ด้านคณะกรรมาธิการทหารกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ เผยว่า ผู้นำ คิม จองอึน ได้ตัดสินใจส่งกองทัพให้รัสเซียภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมที่ทำกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อปีก่อน
เคซีเอ็นเอรายงานด้วยว่า ภายใต้คำสั่งของคิม หน่วยทหารของเกาหลีเหนือได้ต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ และเป็นวีรบุรุษเช่นเดียวกับที่พวกเขาแสดงให้เห็นว่าหากต่อสู้เพื่อประเทศของตนเองจะเป็นอย่างไร
คิม กล่าวว่า “ผู้ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมล้วนเป็นฮีโร่ และตัวแทนแห่งเกียรติยศของมาตุภูมิ” เคซีเอ็นเอ อ้างอิงคำพูดของผู้นำคิม
เคซีเอ็นเอ ระบุอีกว่า "ถือเป็นเกียรติที่เกาหลีเหนือได้เป็นพันธมิตรกับรัฐที่มีอำนาจอย่างสหพันธรัฐรัสเซีย”
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้ยุติการส่งทหารเกาหลีเหนือไปช่วยรัสเซีย และยุติการสนับสนุนใดๆ ต่อรัสเซียเพื่อให้ได้ผลตอบแทน และเสริมว่า รัสเซียละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยการฝึกทหารเกาหลีเหนือ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ย้ำกับรอยเตอร์สว่า หลายประเทศ เช่น เกาหลีเหนือ ที่สนับสนุน “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
ส่วนเกาหลีใต้เผยว่า การยืนยันเกี่ยวกับการส่งทหารของเกาหลีเหนือ เป็น “การยอมรับการกระทำผิดทางอาญา” และประณามเกาหลีเหนือที่ตัดสินใจ “อย่างไร้มนุษยธรรม และผิดศีลธรรม” ที่การส่งเยาวชนไปสู้รบเพื่อค้ำจุนการปกครองของตน
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า การออกมายืนยันในช่วงเวลานี้ หลังจากมีรายงานว่ากองทัพเกาหลีเหนือที่ช่วยรัสเซียรบเสียชีวิตจำนวนมาก และโสมแดงก็ปิดเงียบเรื่องนี้มานาน 6 เดือน มีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงการขยายความร่วมมือระหว่างคิม และปูตินในระดับที่ทัดเทียมกัน
ฮง มิน จากสถาบันเพื่อการรวมชาติเกาหลีในกรุงโซล กล่าว "ขณะนี้มีความจำเป็นที่ผู้นำเกาหลีเหนือ และรัสเซียต้องแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อให้คำมั่นว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" และเรียกการยืนยันดังกล่าวว่า “เป็นการเตรียมการ” สำหรับการประชุมสุดยอดในรัสเซีย
ทั้งนี้ ทางการยูเครนได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปช่วยรัสเซียราว 14,000 นาย รวมถึงกำลังเสริม 3,000 นาย ที่ส่งไปทดแทนทหารที่สูญเสีย แต่การขาดประสบการณ์เกี่ยวกับรถหุ้มเกราะ และสงครามโดรน ทำให้ทหารเกาหลีเหนือสูญเสียอย่างหนัก แต่ก็ปรับตัวได้เร็ว
ด้านหน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครน เผยเมื่อวันที่ 24 เม.ย.68 ว่า หน่วยงานได้สังหารกองทหารเกาหลีเหนือ 25 นายในเคิร์สก์ และเผยแพร่วิดีโอแสดงให้เห็นทหารรายหนึ่งที่ถูกสังหาร และเผยให้เห็นทรัพย์สินของเขา ซึ่งมีบันทึกที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีด้วย
นอกจากทหารแล้ว เกาหลีเหนือยังได้ส่งมอบซัพพลายอาวุธ รวมถึงกระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธ ให้กับรัสเซียเช่นกัน
ส่วนรัสเซียออกมายืนยันเมื่อวันเสาร์ (26 เม.ย.68) เป็นครั้งแรกว่า ทหารเกาหลีเหนือได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่รัสเซียในเคิร์สก์
อ้างอิง: Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์