ตลาดเกิดใหม่ตกที่นั่งลำบากถูกบีบเลือกข้าง เร่งค้าขายกันเอง

ตลาดเกิดใหม่ตกที่นั่งลำบากถูกบีบเลือกข้าง เร่งค้าขายกันเอง

ประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังตกที่นั่งลำบากในสงครามการค้าบานปลาย เมื่อถูกบีบให้ต้องเลือกข้างระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งสำคัญด้วยกันทั้งคู่

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงมากเป็นพิเศษกำลังสงครามการค้าโลกที่กำลังขยายวง โกลด์แมนแซคส์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย และว่า เขตเศรษฐกิจขนาดเล็กกว่าที่เน้นการส่งออกเป็นหลักเสี่ยงกับความปั่นป่วนจากภาษีมากที่สุด

ขณะนี้โกลด์แมนแซคส์คาดการณ์จีดีพีปี 2025 ของเวียดนามไว้ที่ 5.3% ต่ำมากจาก 6.5% ที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้า ส่วนในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัว 3.8% (เทียบกับ 4.7%) ไทยขยายตัว 1.5% (เทียบกับ 2.7%)

ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติดกลุ่มเสียหายหนักสุดจาก “วันปลดแอก” ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศเก็บภาษีจากประเทศในกลุ่มนี้สูงถึง 49% แต่ทรัมป์ระงับให้ทุกประเทศ (ยกเว้นจีน) เป็นเวลา 90 วัน เก็บแค่ 10%

นั่นเท่ากับว่าภูมิภาคนี้ปรับสมดุลได้ยากมาก ลาวัณย์ เวณกเตสะวรัน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านอาเซียนของธนาคารโอซีบีซีกล่าวว่า สหรัฐไม่ได้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพียงประเทศเดียว จีนก็มีบทบาทสำคัญสำหรับเป้าหมายการเติบโตและการพัฒนาในระยะกลางของเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ในเอเชียหลายแห่ง

ไม่กี่วันก่อนประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพิ่งไปเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา เพื่อประชาสัมพันธ์รัฐบาลปักกิ่งในฐานะเสาหลักแห่งเสถียรภาพและส่งเสริมความผูกพันภายในภูมิภาค เขายังเรียกร้องให้กลุ่มโลกใต้ “ยึดมั่นในผลประโยชน์ร่วมของประเทศกำลังพัฒนา”

และนั่นดูเหมือนกำลังเกิดขึ้น รีเบกกา กรินสแปน เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) กล่าวในเดือนนี้ว่า การค้าภายในภูมิภาคกำลังเพิ่มมากขึ้น

“ข้อบ่งชี้น่าสนใจอย่างหนึ่งที่เรามีจากปีที่แล้วคือ ในศตวรรษนี้การค้าระหว่างกลุ่มประเทศใต้กับใต้เติบโตเร็วกว่าการค้าระหว่างกลุ่มประเทศเหนือกับเหนือแล้วดังนั้น ดิฉันคิดว่าการเร่งตัวของการค้าระหว่างกลุ่มประเทศใต้กับใต้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่เนื่องมาจากนโยบายการค้าใหม่ของสหรัฐ" กรินสแปนกล่าว

อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียนปีนี้มีความเห็นในทำนองเดียวกันเขาเรียกร้อง บนเวทีประชุมผู้นำการลงทุนอาเซียนเมื่อต้นเดือน เม.ย. ให้อาเซียนค้าขายและบูรณาการทางเศรษฐกิจกันให้มากขึ้น