Gen Z ขอเที่ยวก่อน จ่ายทีหลัง จนมีหนี้แบบไม่ทันตั้งตัว

‘ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง’ ครองใจคนรุ่นใหม่ อนุมัติไว ง่าย สะดวก ส่วนใหญ่ใช้เพื่อการท่องเที่ยว บางรายมีหนี้ทับซ้อนไม่รู้ตัว นักวิเคราะห์เตือนถ้าไม่มีเงินสด ก็ไม่ควรใช้ BNPL
KEY
POINTS
- บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลัง (BNPL) กำลังครองใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลกทั้งใน "สหรัฐ" และ “จีน” โดยเฉพาะสำหรับการท่องเที่ยว
- สะดวก ง่าย อนุมัติเร็ว แต่ต้องระวังเสียค่าธรรมเนียมจากการผิดนัดชำระหนี้
- เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ยอดเยี่ยม “หากใช้อย่างมีความรับผิดชอบ” แต่ก็อาจเป็นดาบ 2 คม เพราะผู้ใช้กว่า 63% มีสินเชื่อทับซ้อนมากกว่า 1 รายการ
“ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” (BNPL) บริการทางการเงินที่กำลังครองใจคนรุ่นใหม่ทั้ง เจน Y และเจน Z ที่เลือกใช้เพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์ ใช้ได้กับสินค้าทุกประเภทรวมถึงการจองตั๋วท่องเที่ยวที่มาพร้อมกับเงื่อนไขที่ดึงดูดใจจนลืมนึกถึง "ภาระทางการเงิน" ที่อาจทำให้คุณก่อหนี้โดยไม่รู้ตัว
จากการสำรวจของ Bread ผู้ให้บริการทางการเงินชื่อดังในสหรัฐอเมริกาพบว่า ทั้งคน Gen Y และ Gen Z ต่างนิยมใช้บริการ "ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง" สำหรับการเดินทางและพักผ่อน หรืองานดนตรีอย่าง Coachella Valley โดย Billboard รายงานว่า ผู้ซื้อบัตรเข้าชมงานเทศกาลดนตรีและศิลปะในปีนี้ เกือบ 60% เลือกชำระเงินผ่านบริการ BNPL แม้ว่าจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมถึง 41 ดอลลาร์ หรือราว 1,372 บาทก็ตาม
‘ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง’ ครองใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลก
เนิร์ดวอลเล็ท (NerdWallet) เว็บไซต์การเงินส่วนบุคคลระบุว่า ในปี 2025 นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 5 ได้วางแผนที่จะใช้บริการ BNPL เพื่อการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะถึงนี้
Klarna หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังเผยว่า จำนวนยอดจองการเดินทางผ่านแพลตฟอร์มสูงขึ้นกว่า 50% ในปีที่ผ่านมา ส่วน Affirm รายงานว่าปริมาณการจองการท่องเที่ยวและตั๋วโดยสารสูงขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายในปี 2024 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 34,000 ล้านบาท
บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังกำลังครองใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ “จีน” เมื่อ ม.ค. ที่ผ่านมา Fliggy แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวจาก Alibaba Group ได้รายงานว่าการชำระค่าสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้วย BNPL ในปี 2024 สูงกว่าปี 2023 ถึง 20% อีกทั้งยังได้วิเคราะห์ว่าในปี 2025 บริการ BNPL จะยังคงมียอดผู้ใช้งานสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่
การเปิดเผยของ Fliggy ยังพบว่า “เกือบ 1 ใน 4 ของผู้ใช้งาน BNPL คือคนที่เกิดในปี 1995-1999 ซึ่งตรงกับเจน Z ขณะที่สัดส่วนผู้ใช้งานที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไปซึ่งยังคงเป็นคนเจนเดียวกัน มีการเติบโตของผู้สมัครเร็วที่สุด โดยมีผู้ใช้งานเกือบ 20%”
สะดวก ง่าย อนุมัติเร็ว
คริสติน เฮอร์แมน หนึ่งในคนที่ได้ใช้งานบริการ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” เพื่อซื้อตั๋วเดินทางไปยังไมอามี และมองว่านี่คือนวัตกรรมที่เกิดมาเพื่อช่วยชีวิตของเธอ เพราะการอนุมัตินั้นรวดเร็วมาก ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการดำเนินการใดๆ เพียงแต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ การเสียค่าธรรมเนียมหากพลาดกำหนดชำระหนี้
ส่วนเรน ทีโอ ใช้ BNPL เพื่อแบ่งจ่ายค่าที่พักบนเกาะบาตัม ประเทศอินโดนีเซียเป็นจำนวน 3 งวด โดยเธอมองว่ามันง่ายและสะดวก
ทั้งเฮอร์แมน และทีโอ ต่างก็เป็นหนึ่งในจำนวนของนักท่องเที่ยวที่ใช้ BNPL เพื่อจ่ายค่าที่พัก ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมและร้านอาหารที่มาพร้อมกับข้อเสนอที่ไม่มีดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมหากชำระเงินล่าช้า
ถ้าไม่มีเงินสด ก็ไม่ควรใช้ BNPL
สุนิล ซัชเดฟ หัวหน้าฝ่ายการเงินจาก Fiserv มองว่า BNPL เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ยอดเยี่ยม “หากใช้อย่างมีความรับผิดชอบ” โดยได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และถึงแม้จะมีความกังวลในช่วงแรก แต่สินเชื่อ BNPL ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในวงกว้าง
ขณะเดียวกัน เจมี ทวิสส์ ซีอีโอจาก Carrington Labs ก็แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า BNPL สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้หลากหลายวิธี รวมไปถึงการใช้งานเพื่อการท่องเที่ยว โดยเขาได้เปิดเผยข้อมูลจากการรายงานว่า การผิดนัดชำระสำหรับบริการ BNPL มีอัตราต่ำกว่าการชำระด้วยเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เพราะผู้คนทั่วไปใช้งานบริการนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบการชำระเงิน มากกว่าการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าถึงเงินทุน
อย่างไรก็ดี BNPL ก็อาจเป็นเหมือนดาบสองคม โดย NerdWallet เผยแพร่ข้อมูลอ้างอิงรายงานจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (CFPB) เมื่อเดือนม.ค. 2025 พบว่า 63% ของผู้ใช้สินเชื่อ BNPL มีหนี้มากกว่าหนึ่งรายการในเวลาเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของการก่อหนี้จำนวนมากโดยไม่รู้ตัว
ส่วนแอนดรูว์ โลเคนอธ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ TheFinanceNewsletter.com ให้สัมภาษณ์ว่า “การกู้เงินซ้ำซ้อน” เป็นเพียงหนึ่งในปัญหาของผู้ใช้สินเชื่อ BNPL นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่นๆ อย่างความยากในการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า และการที่เกิดเหตุไม่คาดฝันจนกระทบต่อการชำระหนี้ เช่น รถเสีย หรือตกงานกะทันหัน
นอกจากนี้ การตัดสินใจเดินทางแบบฉุกละหุกในนาทีสุดท้าย อาจเป็นปัญหาได้เช่นกัน ควรมีการวางแผน BNPL และชำระเงินแบบเต็มจำนวนก่อนที่จะเริ่มเดินทางหรือท่องเที่ยว เพราะเมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง ความรู้สึกตื่นเต้นและความสุขจากการพักผ่อนได้จางหายไป ทำให้แรงจูงใจที่จะจ่ายเงินอาจลดลงไปด้วย
เบนสัน วาร์เกเซ่ ผู้จัดการจากสำนักงานกฎหมาย Varghese Summersett ในรัฐเท็กซัสเผยว่า มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่ถูกฟ้องร้องและมีปัญหาทางการเงินจากการใช้บริการ BNPL โดยเฉพาะการใช้เงินไปกับการท่องเที่ยว ทำให้ตอนนี้บริษัทได้เพิ่มคำแนะนำเกี่ยวกับการตระหนักรู้ทางการเงินเข้าไปในการอบรมของบริษัทแล้ว เพราะ BNPL เข้าถึงง่าย จนก่อให้เกิดข้อพิพาทมากกว่าบัตรเครดิตเสียอีก
โลเคนอธ ทิ้งท้ายสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาจะใช้บริการสินเชื่อ BNPL เพื่อวัตถุประสงค์ทางการท่องเที่ยวว่า
“ถ้าคุณหาเงินมาจ่ายค่าท่องเที่ยวไม่ได้ คุณก็ไม่ควรที่จะใช้ BNPL”
แปลและเรียบเรียงโดย พงศ์พล นิสยันท์ นักศึกษาฝึกงาน