'เวียดนาม' ขายพันธบัตรเพิ่ม 30% ลุยลงทุน - ตุนกระสุน ชดเชยส่งออก

เวียดนามเพิ่มการขายพันธบัตร 30% จ่อลงทุนภาครัฐเพิ่ม ตุนกระสุนรับมือผลกระทบสงครามการค้า หลัง 'การส่งออกเป็นตัวแบกประเทศ' คิดเป็นสัดส่วนถึง 87% ของจีดีพี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า "เวียดนาม" ได้เพิ่มสัดส่วนการขายพันธบัตรเกือบ 30% ในปีนี้ โดยรัฐบาลฮานอย พยายามจะเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโต และปกป้องเศรษฐกิจจากความเสี่ยงของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ หลังจากที่ผ่านมา "ภาคการส่งออก" ของเวียดนามคือ ส่วนสำคัญที่แบกเศรษฐกิจของประเทศ
รายงานระบุว่า ศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้มีเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และในปี 2567 จีดีพีเติบโตถึงกว่า 7% จากการลงทุนของต่างประเทศที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตเพื่อเน้นการส่งออก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงงานราคาถูก และสินค้าวัตถุดิบราคาถูกที่นำเข้ามาจากจีน
จากข้อมูลของรัฐบาลฮานอยพบว่า การส่งออกคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 87% ของจีดีพีเวียดนามในปี 2567 โดยเป็นการส่งออกไปยังตลาด "สหรัฐ" มากที่สุด แต่ปัจจุบันเวียดนามกำลังเผชิญภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐสูงถึง 46% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศคู่แข่งในภูมิภาค
ทั้งนี้ เวียดนามได้เริ่มการเจรจาการค้ากับสหรัฐแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลวอชิงตันลดหรือยกเลิกภาษีนำเข้า ซึ่งถูกเลื่อนการบังคับใช้ออกไป 90 วันจนถึงเดือนก.ค. คงเหลือไว้เฉพาะภาษีพื้นฐาน 10% แต่ก็คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของเวียดนามที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
บรรดานักวิเคราะห์จากบริษัท BMI คาดการณ์ว่า ภาษีนำเข้าของสหรัฐอาจฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามมากถึง 3 จุดเปอร์เซ็นต์
ลุยออกพันธบัตรเพิ่มตุนเงินสด
ที่ผ่านมาเวียดนามมักลังเลที่จะก่อหนี้เพิ่มแม้จะมีหนี้สาธารณะในระดับต่ำก็ตาม แต่ในครั้งนี้เวียดนามกำลังหันมาก่อหนี้ขายพันธบัตรเพิ่มขึ้นมาก
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฮานอย ณ วันที่ 23 เม.ย.68 พบว่าในปีนี้ เวียดนามระดมทุนจากการขายพันธบัตรไปแล้ว 130.8 ล้านล้านดอง (เกือบ 1.7 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 26.7% จากปีก่อน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์