'ถั่วเหลือง' ดาบแรกของจีน แทงหัวใจสหรัฐ | กันต์ เอี่ยมอินทรา

'ถั่วเหลือง' อาวุธแรกของจีน ที่ใช้ตอบโต้สหรัฐ การขึ้นภาษีถั่วเหลือง มีโอกาสทำให้สินค้าชนิดนี้ได้รับผลกระทบ อาจเน่าเสียง่าย และจะกระทบเกษตรกร ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของทรัมป์
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าคือประชาชน แต่ใคร/ กลุ่มไหน/ ฝั่งไหน จะเจ็บมากกว่ากัน? คือคำถามที่น่าสนใจยิ่ง
หากถอดบทเรียนจากกรณีการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) จะพบว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ “ชนชั้นกลาง ถึงล่าง” เพราะข้าวของโดยเฉพาะของชำที่แพงขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนก็เห็นตรงกันว่าจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคในสหรัฐเช่นกัน แต่อีกหนึ่งผู้ที่จะได้รับผลอย่างรุนแรงก็คือ “เกษตรกรชาวสหรัฐ”
การจะเข้าใจเศรษฐกิจการเมืองสหรัฐอย่างถ่องแท้ จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องของภูมิศาสตร์ ที่เป็นทวีปขนาดใหญ่ ตรงกลางของทวีปนั้นเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีพื้นที่มากแต่ประชากรน้อย มีความเป็นชนบทสูง และนี่คือหัวใจของเกษตรกรสหรัฐซึ่งก็เป็นฐานเสียงที่สำคัญของพรรครีพับริกัน ขณะที่เมืองริมทะเลทั้งสองฝั่งทะเล มีการเติบโตจากการค้านั้นคือเมืองใหญ่ ซึ่งก็คือฐานเสียงที่สำคัญของพรรคคู่แข่งของทรัมป์อย่างเดโมแคตร
ดังนั้นอาวุธแรกที่จีนใช้ตอบโต้สหรัฐคือ การขึ้นภาษีสินค้าเกษตร และ “ถั่วเหลือง” ก็คือดาบแรกที่จีนใช้
แล้วทำไมต้องถั่วเหลือง? เพราะหากมองในแง่ของด้านอุปสงค์คือจากฝั่งจีนเอง อุตสาหกรรมอาหารคนและสัตว์ของจีนนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐมากถึง 27 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 12,800 ล้านดอลลาร์ และถือเป็นลูกค้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ
ยังมีสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่รวมแล้วมูลค่ากว่า 21,000 ล้านดอลลาร์ ที่สหรัฐพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดจีน อาทิ เนื้อวัว อาหารทะเล ฝ้าย เนื้อหมู เนื้อไก่ ข้าวโพด ธัญพืช ผัก ผลไม้ และสินค้าจำพวกนมวัว ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสินค้าที่เน่าเสียได้ง่าย (Perishable goods) และมีฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในรัฐที่เป็นฐานคะแนนเสียงสำคัญของทรัมป์อย่าง ไอโอวา อินเดียนา โอไฮโอ เนแบรสกา มิสซูรี เซาท์ดาโกตา นอร์ทดาโกตา และอาร์คันซอ มากน้อยตามลำดับที่ไล่มา
จะเห็นได้ว่า หากอยากบีบคอทรัมป์ให้เริ่มที่ถั่วเหลือง เพราะถั่วเหลืองคืออุตสาหกรรมหลักของฐานเสียงที่เลือกทรัมป์ นี่คือราคาที่ผู้ลงคะแนนเลือกทรัมป์ต้องจ่ายหากสงครามภาษียังคงดำเนินต่อไป และผู้ลงคะแนนเลือกทรัมป์นี่เองที่จีนเชื่อว่าจะเป็นผู้ที่สามารถทำให้ทรัมป์ใจอ่อนเรื่องสงครามภาษีได้
ขณะที่จีนมีทางเลือกในการสรรหาถั่วเหลืองจำนวนมากที่จีนต้องการจากคู่ค้ารายอื่น เช่น บราซิล และแนวโน้มการค้าระหว่างจีนและบราซิลก็สูงขึ้นทุกปีอย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่รวมการเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ BRICS ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นปากเป็นเสียงแข่งกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมเดิมที่ร่ำรวยอยู่แล้วอย่าง G8
และอีกหนึ่งแต้มต่อที่จีนมีต่อสหรัฐนั่นคือ “เวลา” โดยเฉพาะกับสินค้าเกษตรที่โดยธรรมชาติสามารถเน่าเสียได้ หากไม่สามารถขายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่นเดียวกับวาระทางการเมืองของประธานาธิบดี และสภาทั้งสองที่จะมีผลต่อการถ่วงดุลอำนาจ ที่กำหนดโดยการเลือกตั้ง ขณะที่ศูนย์กลางของอำนาจในจีนนั้นมีความมั่นคงและยาวนานในทางปฎิบัติ
ดังนั้นการเลือกเล่นเกมส์ยาวของจีน ใช้ทรัพยากรที่จีนมีคือเวลาและความอดทน ตีที่หัวใจของทรัมป์คือฐานเสียง ชะลอคำสั่งซื้อถั่วเหลืองจึงถือเป็นกระบวนดาบชุดแรก เพื่อประลองกำลังในสงครามการค้าครั้งนี้