รอง ปธน.สหรัฐสวมบท ‘เซลส์แมน’ ขายอาวุธ - พลังงานให้อินเดีย

‘เจดี แวนซ์’ รอง ปธน.สหรัฐเยือนอินเดีย พร้อมเสนอขายอาวุธทันสมัยอย่างเครื่องบินขับไล่ F-35 และพลังงานจากสหรัฐ เพื่อกระชับความสัมพันธ์สองประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 5 แสนล้านดอลลาร์ ในสิ้นทศวรรษนี้
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า ในการเยือนอินเดียของสหรัฐ “เจดี แวนซ์” รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวถ้อยแถลงเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.68) ในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐกับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยระบุว่า สหรัฐยินดีที่จะขาย “อุปกรณ์ทางการทหาร” และ “พลังงาน” ให้กับประเทศในเอเชียใต้มากขึ้น
“ในอินเดีย สหรัฐมีมิตร และเราต้องการเสริมสร้างสายสัมพันธ์อันอบอุ่นที่มีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” แวนซ์ กล่าวในสุนทรพจน์ที่ศูนย์นานาชาติราชสถาน เมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย
ทั้งนี้ แวนซ์เดินทางถึงอินเดียเมื่อวันจันทร์ (21 เม.ย.68) พร้อมด้วยอูชา ภรรยาของเขา และลูกทั้งสามคนในการเยือนเป็นเวลา 4 วัน โดยในเย็นวันเดียวกัน เขาได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีโมดีแห่งอินเดีย
แวนซ์ กล่าวถึง “เป้าหมายของทั้งสองประเทศ” ในการเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีให้มากกว่า 2 เท่าเป็น 500,000 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ โดยระบุว่า รู้สึกมีกำลังใจจากทุกสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้
“ตามที่หลายท่านทราบดี รัฐบาลของเราทั้งสองกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อจัดทำข้อตกลงทางการค้า โดยยึดตามลำดับความสำคัญร่วมกัน เช่น การสร้างงานใหม่ การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน และการสร้างความมั่งคั่งให้กับแรงงานของเรา” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า เขาและนายกรัฐมนตรีโมดีได้บรรลุความคืบหน้าอย่างมากในประเด็นเหล่านี้ระหว่างการพบกัน
แวนซ์ ประกาศว่า สหรัฐ และอินเดีย “ได้ตกลงในกรอบการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการแล้ว” และกล่าวว่า “ผมเชื่อว่า นี่คือก้าวสำคัญในการสานต่อวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีโมดี เพราะกรอบนี้ได้วางแผนที่นำไปสู่ข้อตกลงสุดท้ายระหว่างสองประเทศของเรา”
ในประเด็นด้านกลาโหม แวนซ์ กล่าวว่า “สหรัฐมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุดกับอินเดีย อเมริกาจัดฝึกร่วมทางทหารกับอินเดียมากกว่ากับประเทศใดในโลก”
“ตั้งแต่จรวดพิฆาตรถถังเจวาลีน ไปจนถึงยานเกราะสไตรเกอร์ ประเทศของเราจะร่วมกันผลิตอาวุธ และยุทโธปกรณ์หลายรายการที่จำเป็นต่อการยับยั้งผู้รุกรานจากต่างชาติ” แวนซ์ กล่าว
“ไม่ใช่เพราะเราต้องการสงคราม แต่เพราะเราปรารถนาสันติภาพ และเราเชื่อว่า หนทางสู่สันติภาพที่ดีที่สุดคือ ความเข้มแข็งร่วมกัน”
นอกจากนี้ แวนซ์ยังกล่าวถึงกลุ่มความร่วมมือ Quad ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐ ว่า “เป็นเรื่องที่เหมาะสม” ที่อินเดียจะเป็นเจ้าภาพการประชุดสุดยอด Quad ในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
“ผลประโยชน์ของเราต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่เสรี เปิดกว้าง สงบสุข และมั่งคั่ง สอดคล้องกันอย่างเต็มที่” แวนซ์กล่าว “เราทั้งสองต่างรู้ดีว่า ภูมิภาคนี้จะต้องปลอดภัยจากอำนาจใดก็ตามที่มุ่งครอบงำ” ซึ่งถือเป็นการพาดพิงโดยนัยถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาค
แวนซ์ยังกล่าวอีกว่า สหรัฐต้องการให้อินเดียซื้อ “อาวุธยุทโธปกรณ์” จากเราให้มากขึ้น เรามองว่านี่คือ อุปกรณ์ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน เขายกตัวอย่างว่า เครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นที่ห้าของสหรัฐ จะมอบความสามารถให้กองทัพอากาศอินเดียในการปกป้องน่านฟ้า และประชาชนของคุณอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น แวนซ์สนับสนุนการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านพลังงานระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวว่า “เรามองว่าประเทศของคุณจะได้รับประโยชน์จากการนำเข้าพลังงานจากสหรัฐ และจากการขยายการส่งออกเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างผลิตผลได้มากขึ้น ผลิตได้มากขึ้น และเติบโตได้มากขึ้น โดยมีต้นทุนพลังงานที่ต่ำกว่ามาก”
“และข้อเสนอหนึ่งที่ผมอยากแนะนำคือ บางทีอินเดียอาจพิจารณาลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าอเมริกัน” แวนซ์กล่าว พร้อมเสริมว่า เขาได้หารือประเด็นนี้กับนายกรัฐมนตรีโมดีแล้วเช่นกัน
เมื่อถึงช่วงท้ายของสุนทรพจน์ยาวเกือบ 30 นาที แวนซ์กล่าวว่า อนาคตของศตวรรษที่ 21 จะถูกกำหนดโดยความแข็งแกร่งของความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับอินเดีย
อ้างอิง: nikkei
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







