'แบงก์ชาติจีน' ขอรัฐวิสาหกิจมุ่งใช้ 'เงินหยวน' ในต่างประเทศ

'แบงก์ชาติจีน' ขอรัฐวิสาหกิจมุ่งใช้ 'เงินหยวน' ในต่างประเทศ

หน่วยงานในจีนนำโดย 'แบงก์ชาติ' ออกประกาศขอรัฐวิสาหกิจจีนมุ่งใช้ 'เงินหยวน' ในการชำระเงิน และชำระบัญชีในต่างประเทศ ท่ามกลางสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศบนเว็บไซต์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เม.ย.68 กระตุ้นให้บรรดารัฐวิสาหกิจจีนให้ความสำคัญกับการใช้ "เงินหยวน" เพื่อชำระเงิน และชำระบัญชีในการขยายกิจการในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความพยายามอย่างเป็นทางการของจีน ต่อการเร่งการใช้เงินหยวนในระดับสากล ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ประกาศของ แบงก์ชาติจีน ที่ออกร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติของจีน (NFRA), สำนักงานปริวรรตเงินตราของจีน (SAFE) และเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า ได้สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ในเซี่ยงไฮ้ขยายสินเชื่อข้ามพรมแดนเพื่อลดต้นทุนการจัดหาเงินทุนสกุลเงินหยวนให้บริษัทต่างๆ และส่งเสริมการนำเข้า-ส่งออกที่ใช้เงินหยวนเป็นหลัก

ธนาคารกลางจีนระบุว่า "จะเสริมความแข็งแกร่งในการสร้างระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารของสำนักหักบัญชี (CHIPS)...ศึกษาและผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน และให้บริการชำระเงิน และเคลียริ่งที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสำหรับการค้าระหว่างประเทศ การขนส่ง การลงทุน และการจัดหาเงินทุนที่ใช้เงินหยวนเป็นหลัก"

PBOC ระบุด้วยว่า จะสนับสนุนให้ "ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้" ร่วมมือกับตลาดแลกเปลี่ยนทองคำต่างประเทศอื่นๆ และขยายการใช้ "ราคาอ้างอิงเป็นเงินหยวน" ในตลาดหลักของโลก

ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้เริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้า และตลาดการเงินทั่วโลก แม้ทรัมป์จะเลื่อนการขึ้นภาษีดังกล่าวออกไปเป็นเวลา 90 วัน โดยคงไว้เฉพาะภาษีพื้นฐาน 10% แต่กลับยังเดินหน้าขึ้นภาษีจีนเป็น 145% ทำให้ปักกิ่งต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ทั้งภาษีนำเข้าสหรัฐ 125% และมาตรการจำกัดทางการค้าอื่นๆ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์