‘เจดี แวนซ์’ เยือนอินเดีย ท่ามกลางสงครามการค้าทรัมป์ระอุ

‘เจดี แวนซ์’ เยือนอินเดีย ท่ามกลางสงครามการค้าทรัมป์ระอุ

รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐ เริ่มภารกิจเยือนอินเดียท่ามกลางสงครามการค้าโลกที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จุดชนวน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เจดี แวนซ์ มาถึงอินเดียในวันจันทร์ (21 เม.ย.68) ในขณะที่สหรัฐกำลังขู่เพิ่มภาษีสินค้าอินเดียจาก 10% เป็น 26% หากตกลงกันไม่ได้ภายใน 90 วัน

ทำเนียบขาวแถลงว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เตรียมต้อนรับแวนซ์เพื่อการประชุมทวิภาคี ซึ่งสำคัญต่อโมดี ผู้พยายามวางสถานะอินเดียเป็นผู้นำกลุ่มประเทศโลกใต้ หรือเขตเศรษฐกิจเกิดใหม่ ด้วยหวังเพิ่มอิทธิพลในเวทีโลก

รัฐบาลทรัมป์ระบุชื่ออินเดีย เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่สหรัฐต้องเจรจาให้ได้ภายใน 90 วัน การมาของแวนซ์จึงทวีความหวังในนิวเดลีว่า อินเดียสามารถทำข้อตกลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องถูกเก็บภาษีสูง ในขณะที่ภาษีพื้นฐาน 10% ยังมีผลบังคับใช้ 

เจ้าหน้าที่รัฐบาลนิวเดลีรายหนึ่งเผยกับบลูมเบิร์กว่า การเจรจาการค้ารายภาคส่วนจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยมีเป้าหมายสรุปภายในสิ้นเดือนพ.ค. นิรมาลา สิธารมัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดเข้าประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)และคาดว่าจะหารือการค้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐที่นั่นด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น โมดียังหวังดึงดูดการลงทุนจากอีลอน มัสก์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารเทสลารายนี้เคยกล่าวว่า เขาจะมาเยือนอินเดียในปีนี้ หลังคุยกับโมดีครั้งล่าสุดแล้วได้สัญญาณบวกถึงการที่เทสลาจะเข้ามาในตลาดอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก

การทูตอ่อนโยน

การเยือนของแวนซ์ยังรวมถึงการใช้การทูตอ่อนโยนลงซึ่งรัฐบาลทรัมป์ยังไม่ได้ใช้ เมื่อแวนซ์ และครอบครัวลูกเล็กของเขาจะไปเยี่ยมสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมหลายแห่งในชัยปูร์ และอักรา ที่ตั้งของทัชมาฮาล

ครอบครัวแวนซ์สนใจอินเดียมาก อูชา แวนซ์ เป็นสุภาพสตรีหมายเลขสองคนแรก ที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย สื่ออินเดียจึงสนใจในตัวเธอสูงมากตั้งแต่ก่อนเดินทาง หลายฉบับรายงานความเป็นมาของครอบครัวเธอยาวเหยียดมีที่มาจากรัฐอานธรประเทศ

มิลาน ไวศณพ ผู้อำนวยการโครงการเอเชียใต้ มูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า การมาของครอบครัวแวนซ์จะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสายสัมพันธ์อินเดีย-สหรัฐ ในช่วงเวลาที่สหรัฐกำลังใช้ท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นในเวทีโลก

“เป็นความรู้สึกภาคภูมิใจในอินเดียของชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียโพ้นทะเล รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน” ไวศณพ กล่าวและว่า การมาเยือนยังฉายภาพลักษณ์อ่อนโยนของรองประธานาธิบดี ผู้แสดงบทโหดตำหนิประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนในห้องทำงานรูปไข่, วิจารณ์พันธมิตรยุโรปในเวทีประชุมความมั่นคงมิวนิก และพูดถึงคนงานโรงงานจีนว่า “ชาวนา”

ความสนใจที่มีให้อูชา แวนซ์ คล้ายคลึงกับที่มีให้อดีตรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียเหมือนกัน ผู้คนในอินเดียสนใจเธอมากโดยเฉพาะที่หมู่บ้านของบรรพบุรุษในรัฐทมิฬนาฑู แต่แฮร์ริสไม่เคยมาเยือนอินเดียเลยในช่วงดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

สายสัมพันธ์การค้า

สหรัฐพยายามสร้างความสัมพันธ์กับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นมานานแล้วส่วนใหญ่เพื่อให้เป็นปราการต่อกรกับจีน ในส่วนของอินเดียเองก็พยายามแสวงหาการลงทุนที่มากขึ้น จากสหรัฐ และความร่วมมือแบ่งปันเทคโนโลยี และการป้องกันประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การที่อินเดียใกล้ชิดกับรัสเซียทำให้เกิดความตึงเครียดกับสหรัฐในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน กรณีความสัมพันธ์ระหว่างโมดีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และการที่อินเดียยังซื้อน้ำมันรัสเซียต่อเนื่องทั้งๆ ที่พันธมิตรหลายรายคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้วหลังการรุกรานยูเครน

แม้ทรัมป์เก็บภาษีอินเดียสูง แต่สายสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับโมดียังอบอุ่น ผู้นำอินเดียแสดงให้เห็นว่า ประเทศตนเป็นหุ้นส่วนแห่งความร่วมมือในนโยบายสำคัญของทรัมป์

หลายเดือนก่อนทรัมป์ประกาศภาษีศุลกากรเป็นการตอบโต้ อินเดียเร่งขยับด้วยการลดภาษีสินค้าอเมริกันลงอย่างรวดเร็ว เช่น สุราเบอร์เบินจากเคนทักกี และรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน เพื่อลบล้างสมญา “ราชาภาษี” ที่ทรัมป์เรียกขานอินเดีย และว่าทำให้ธุรกิจอเมริกันเสียหาย

หลังจากทรัมป์ และโมดีพบกันในเดือนก.พ. อินเดียเห็นชอบซื้อสินค้าอเมริกันให้มากขึ้น เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว และอาวุธไฮเทค เพื่อลดการได้เปรียบดุลการค้า 4.77 หมื่นล้านดอลลาร์กับสหรัฐ

นอกจากนี้โมดียังสนับสนุนการเนรเทศคนลักลอบเข้าเมืองของทรัมป์ด้วยการจัดเครื่องบินรับพลเมืองของตนกลับจากสหรัฐในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาด้วย

ตอนที่โมดีไปเยือนทำเนียบขาวในเดือนก.พ. สองผู้นำกล่าวว่า มีแผนสรุปข้อตกลงการค้าทวิภาคีชุดแรกภายในฤดูใบไม้ร่วง

“แนวคิดตั้งแต่นายกฯ ลงมาคือ ต้องทำข้อตกลงกับรัฐบาลทรัมป์เสียก่อน ทำข้อตกลงได้แล้วเรื่องอื่นๆ จะตามมา” ไวศณพ สรุป

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์