มูดีส์คาดยอด 'เบี้ยวหนี้' พุ่งกระฉูดรับสงครามค้าทั่วโลก

Moody’s คาดการ 'ผิดนัดชำระหนี้' จะพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ จากผลกระทบสงครามการค้าทั่วโลกที่ฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้น
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody’s) ปรับเพิ่มการคาดการณ์ "การผิดนัดชำระหนี้" (default) ในปี 2568 นี้ เนื่องจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้การขอสินเชื่อทำได้ยากขึ้น
มูดีส์คาดการณ์ว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทในกลุ่มที่เครดิตหุ้นกู้ต่ำกว่าระดับลงทุน (speculative-grade) จะพุ่งขึ้นแตะ 3.1% ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 2.5%
หากการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง อัตราการผิดนัดชำระหนี้ ก็ยังคงน้อยกว่าของปี 2567 แต่มูดี้ส์ก็เตือนด้วยว่าหากเกิดเหตุการณ์ช็อกครั้งใหญ่ทางเศรษฐกิจ อัตราการผิดนัดชำระหนี้อาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงถึง 6%
ทั้งนี้ บริษัทจัดอันดับเครดิตทั่วโลกได้ปรับลดการคาดการณ์สำหรับปี 2025 และขณะนี้ยังคาดการณ์ด้วยว่าเบี้ยประกันความเสี่ยงจะขยายตัวเพิ่ม และการเติบโตจะลดลง
การประเมินของมูดี้ส์อิงตามสมมติฐานที่ว่า ภาษีศุลกากรจะลดการเติบโตของสหรัฐลงอย่างน้อย 1% และยังทำให้เศรษฐกิจอื่นๆ อ่อนแอลงด้วย ซึ่งจะทำให้สภาพแวดล้อมทางการเงินของผู้กู้แย่ลง และทำให้นักลงทุนไม่กล้าเสี่ยงมากขึ้น
ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีรายงานการผิดนัดชำระหนี้แล้ว 27 ราย ลดลงจาก 38 รายในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้ในไตรมาสแรกมาจากหลายอุตสาหกรรม เช่น การดูแลสุขภาพ ภาคบริการ ค้าปลีก โรงแรมและสันทนาการ และโทรคมนาคม