‘สี จิ้นผิง’ คล้อยหลัง เวียดนามยกย่องความผูกพันกับสหรัฐ!

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ยกย่องความผูกพันที่เวียดนามมีกับสหรัฐ “ไม่เหมือนใคร” ขณะที่รัฐบาลฮานอยกำลังเจรจาการค้ากับรัฐบาลทรัมป์เพื่อไม่ให้ถูกเก็บภาษี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์รัฐบาล นายกฯ จิ๋งห์ที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวระหว่างการหารือกับนายเจฟรีย์ เพิร์ลแมน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร Warburg Pincus และประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน โดยมีนายมาร์ก แนปเปอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนามร่วมด้วยว่า ความสัมพันธ์ที่เวียดนามมีกับสหรัฐไม่เหมือนที่มีกับประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่เวียดนามแก้ไข “ข้อกังวลของสหรัฐด้วยการลดภาษีและนำเข้าสินค้าอเมริกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังคงพร้อมหารือและเจรจา” โดยเวียดนามพยาม“สร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่ยั่งยืนและสมดุล”กับสหรัฐ
ในวันที่ 30 เม.ย. นี้ เวียดนามจะเฉลิมฉลอง “วันปลดแอก” ครบรอบ 50 ปีสิ้นสุดสงครามกับสหรัฐ จิ๋งห์กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของสองชาตินั้น "พิเศษและผูกพันกันไม่มีใครเหมือน แตกต่างจากความสัมพันธ์ของเวียดนามกับชาติอื่นๆ"
“เวียดนามคือตัวแบบของการเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตร แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง และมองไปข้างหน้า”
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงให้เห็นว่าเต็มใจอยากเจรจาเรื่องภาษี หลังได้คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโตเลิม
ทั้งสองประเทศแจ้งข่าวการเจรจาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทรัมป์ประกาศระงับภาษีสูงลิบลิ่วเป็นเวลา 90 วัน ลดลงมาเก็บแค่ 10% ซึ่งเวียดนามเจอภาษี 46% เมื่อส่งสินค้าไปขายสหรัฐซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่สุด
ส่วนการเรียกร้องของสีซึ่งเป็นผู้นำประเทศคอมมิวนิสต์เหมือนกันเรียกร้องให้ต่อต้าน “การกลั่นแกล้งแต่เพียงฝ่ายเดียว” เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทบสหรัฐ ผู้นำเวียดนามกลับนิ่งเฉยไม่รับลูกเน้นย้ำถึงท่าทีทางการทูตแบบระมัดระวังของเวียดนาม