'สหรัฐ' ส่อเลิกพยายามเจรจาสันติภาพ 'รัสเซีย-ยูเครน' หากช่วยแล้วไม่คืบหน้า

'สหรัฐ' ส่อเลิกพยายามเจรจาสันติภาพ 'รัสเซีย-ยูเครน' หากช่วยแล้วไม่คืบหน้า

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เผย สหรัฐอาจเลิกพยายามช่วยบรรลุดีลสันติภาพ หากไม่มีความคืบหน้าเร็วๆ นี้

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เผย ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจล้มเลิกความพยายาม เจรจาสันติภาพภายในไม่กี่วัน เว้นแต่จะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะบรรลุข้อตกลงได้

รูบิโอ กล่าวขณะเยือนกรุงปารีส หลังจากร่วมประชุมกับผู้นำยุโรปและยูเครน “เราจะไม่ดำเนินการความพยายามนี้ต่อไปอีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ดังนั้นตอนนี้เราต้องตัดสินใจให้เร็วที่สุด และผมกำลังพูดถึงเรื่องของวันเวลาว่าจะทำได้หรือไม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”

รัฐมนตรีบอกด้วยว่า ประธานาธิบดีรู้สึกมั่นใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาทุ่มเทเวลาและพลังงานอย่างมากให้กับเรื่องนี้ และเรื่องนี้สำคัญมาก แต่ยังมีเรื่องสำคัญอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้น และสมควรได้รับความสนใจไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

คำเตือนของรูบิโอมีขึ้นท่ามกลางสัญญาณความคืบหน้าบางอย่างในการหารือระหว่างสหรัฐและยูเครน

ทรัมป์เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) ว่า ตนคาดว่าจะลงนามข้อตกลงกับเคียฟในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นข้อตกลงจะทำให้สหรัฐสามารถเข้าถึงแร่ของยูเครนได้

สำหรับการประชุมในปารีสเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความพยายามบรรลุสันติภาพของทรัมป์ รวมถึงมหาอำนาจในยุโรปด้วย โดยรูบิโอบอกว่า กรอบข้อตกลงสันติภาพของสหรัฐได้รับการตอบรับที่ดี ขณะที่ทำเนียบปธน.ของเซเลนสกีของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้สร้างสรรค์และเป็นไปในเชิงบวก

นอกจากนี้ รูบิโอเผยด้วยว่าเขาได้พูดคุยกับเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียหลังการเจรจาที่ปารีส โดยได้บอกรัฐมนตรีของรัสเซียว่า การเจรจาสร้างสรรค์ และยังได้สรุปให้เขาฟังเกี่ยวกับ “องค์ประกอบบางส่วน” ของกรอบสันติภาพของสหรัฐด้วย

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพ นั้นยากที่จะบรรลุได้ แต่จำเป็นต้องมีสัญญาณว่าสามารถทำได้ในเร็วๆ นี้

“ไม่มีใครบอกว่าเรื่องนี้จะทำได้ภายใน 12 ชั่วโมง แต่เราต้องการดูว่าเรื่องนี้ใช้เวลาแค่ไหน และช่วงเวลาจะลดน้อยลงได้หรือไม่ หรือเราสามารถดำเนินการให้คืบหน้าได้ภายในระยะเวลาที่เรากำหนดไว้ ได้หรือไม่” รูบิโอกล่าว

 

อ้างอิง: reuters