IMF เผย ไม่พบความเสี่ยง เศรษฐกิจถดถอย แม้ความตึงเครียดทวีความรุนแรง

IMF เผย ไม่พบความเสี่ยง เศรษฐกิจถดถอย แม้ความตึงเครียดทวีความรุนแรง

"ผอ. IMF" เผย ไม่พบความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แม้จ่อปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจหลายประเทศลงรวมทั้งสหรัฐ แนะให้ทุกประเทศปรับเปลี่ยนภายในเพื่อรับมือความไม่แน่นอน

สำนักข่าวบีบีซี รายงานแถลงการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่า ความไม่แน่นอนด้านภาษีการค้าปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น “ทะลุกราฟ” อย่างไรก็ตามยังไม่พบความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

IMF เผย ไม่พบความเสี่ยง เศรษฐกิจถดถอย แม้ความตึงเครียดทวีความรุนแรง

ความไม่แน่นอนทางด้านการค้าโลกปรับตัวทะลุกราฟ

ทั้งนี้ IMF ระบุในคาดการณ์เศรษฐกิจโลกว่า ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้นและยังเตือนว่าระดับความไว้วางใจระหว่างประเทศอาจลดลง

อย่างไรก็ตาม ในรายงานภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่จะประกาศออกมาในช่วงต้นสัปดาห์หน้าของ IMF จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกลงอย่างมีนัยสำคัญแต่ยังไม่พบความเสี่ยงของสภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ มุมมองดังกล่าวของ IMF เกิดขึ้นหลังจากบรรดาผู้นำและนักธุรกิจจำนวนมากพยายามตอบสนองต่อการขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา หรือวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกว่า “วันปลดปล่อยอเมริกา”

บทวิเคราะห์ของบีบีซี ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ปรับตัวลดลงหลังจากการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา และจนถึงวันนี้ตลาดหุ้นหลายแห่งก็ยังไม่ปรับตัวขึ้นมา โดยดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรยังอยู่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำกว่าเดือนที่แล้วประมาณ 4.6% 

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเริ่มคาดการณ์ถึงสภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นหลังจากที่บริษัทหลายเเห่งเร่ิมลดการใช้จ่ายและการลงทุนลงท่ามกลางความไม่แน่นอนและการขึ้นภาษีตอบโต้หลังกับสหรัฐอเมริกา
 

ย้อนกลับไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา องค์การการค้าโลก (WTO) ปรับประมาณการปริมาณการค้าโลกลงสำหรับปีนี้ โดยสาเหตุสำคัญมาจากภาษีศุลกากรของทรัมป์

อีกด้านหนึ่ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งเนื่องจากความตึงเครียดของการค้าโลก   

อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ของบีบีซี ระบุว่า IMF กลับมีมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกดีมากกว่าเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์กลุ่มอื่นๆ “เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการเรียกร้องให้เราต้องตอบสนองอย่างชาญฉลาด” คริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการ IMF   

 "ความหวังที่เราจะมีเศรษฐกิจโลกที่สมดุลและยืดหยุ่นมากกว่านี้ยังมีความเป็นไปได้ เราต้องร่วมมือกันเพื่อทำให้เศรษฐกิจโลกเช่นนี้เกิดขึ้น”

ผู้อำนวยการ IMF ยังกล่าวเสริมอีกว่า ทุกประเทศต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการปรับปรุงเศรษฐกิจภายในประเทศเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น    

รวมทั้ง เธอยังเรียกร้องแบบเฉพาะเจาะจงไปถึงสหภาพยุโรป (EU) ให้ลดข้อจำกัดสำหรับการค้าและบริการภายในกลุ่มเพื่อเพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น   

ท้ายที่สุด ผู้อำนวยการ IMF ยังระบุอีกว่า จีนจำเป็นต้องเพิ่ม “ตาข่ายความปลอดภัยทางสังคม” หรือ Safty Net เพื่อลดการออมเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงของประชาชนจีน ขณะที่คำแนะนำต่อสหรัฐคือรัฐบาลจำเป็นต้องเดิมหน้าลดภาระหนี้ของประเทศ
        

อ้างอิง: BBC