‘กัมพูชา’ หวังจีนอุ้มเศรษฐกิจ หลังทรัมป์เก็บภาษีโหด 49%

ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีทรัมป์ ‘กัมพูชา’ หันซบจีนด้วยหวังว่าจะได้รับเงินทุนและการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น โดยเฉพาะ ‘คลองฟูนันเตโช’ ที่อาจเปลี่ยนเส้นทางเศรษฐกิจของประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ท่ามกลางภาษีทรัมป์ต่อ “กัมพูชา” ที่สูงถึง 49% ประเทศแห่งนี้จึงคาดหวังว่า จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากจีนมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เตรียมเดินทางเยือนกัมพูชาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของการเยือน 3 ประเทศในอาเซียน
สำหรับ “กัมพูชา” เป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้ารายใหญ่ไปยังสหรัฐ และยังเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ เช่น ถนนและสนามบิน และจีนก็เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาด้วย
“เราคาดหวังว่า จะมีความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น รวมถึงในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วย” เมียะ ซกเสนซาน โฆษกกระทรวงการคลังของกัมพูชากล่าว ในช่วงก่อนการเดินทางมาถึงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่กรุงพนมเปญ
เขากล่าวในระหว่างการตอบคำถามเกี่ยวกับการที่กัมพูชาคาดหวังว่า จีนจะประกาศสนับสนุนทางการเงินสำหรับ “โครงการขุดคลองระยะทาง 180 กิโลเมตร” ซึ่งถือเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ทะเยอทะยานที่สุดของประเทศ
ด้านสี จิ้นผิงเรียกร้องให้กรุงพนมเปญต่อต้าน “ลัทธิวางอํานาจบาตรใหญ่” และ “ลัทธิกีดกันทางการค้า” โดยเป็นถ้อยแถลงเดียวกับข้อความที่เขาส่งถึงเวียดนามและมาเลเซียเมื่อต้นสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้กล่าวว่า จีนจะเป็นผู้ให้ทุนสำหรับโครงการขุดคลองฟูนันเตโช ซึ่งจะเชื่อมจากแม่น้ำโขง บริเวณใกล้กรุงพนมเปญ ไปยังชายฝั่งอ่าวไทย โดยคลองดังกล่าวจะเบี่ยงเบนการไหลของน้ำจากพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่เปราะบาง และช่วยลดการพึ่งพาขนส่งสินค้าทางเรือผ่านท่าเรือของเวียดนาม
จนถึงขณะนี้ จีนยังไม่ได้ให้คำมั่นทางการเงินต่อโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาได้เปลี่ยนแถลงการณ์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของจีน จากเดิมที่ระบุว่า จะครอบคลุม 100% ของต้นทุน มาเป็น 49% ของต้นทุนทั้งหมด ซึ่งประเมินไว้อยู่ที่ 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายปีของกัมพูชา
การเยือนกัมพูชาของสี จิ้นผิง ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่มีการวางแผนล่วงหน้ายาวนาน ซึ่งถูกมองว่า เป็นความพยายามสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของจีนในอาเซียน หนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีทรัมป์ โดยก่อนหน้านี้ สีได้เดินทางเยือนมาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งเวียดนามมีความกังวลเกี่ยวกับโครงการคลองฟูนันเตโช เนื่องจากเป็นการลดการพึ่งพาท่าเรือเวียดนาม
อ้างอิง: reuters






