ภาษีทรัมป์พ่นพิษ 'สี จิ้นผิง'เดินสายจีบสมาชิกอาเซียน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานแถลงการณ์จากหลินเจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน การเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของปีนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ถือเป็นทริปที่ “สำคัญยิ่ง” ต่อภูมิภาค

รัฐบาลปักกิ่งพยายามฉายภาพตนเองเป็นตัวเลือกที่มั่นคงเมื่อเทียบกับทรัมป์ผู้เอาแน่เอานอนไม่ได้ วันก่อนเพิ่งประกาศภาษีมโหฬารทำให้ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน แต่ตอนนี้ระงับไปแล้วเป็นส่วนใหญ่

เมื่อวันศุกร์ (11 เม.ย.) หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน ยกหูคุยกับเอ็นโกซีโอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) แจ้งว่า ภาษีทรัมป์ “สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศกำลังพัฒนา”

ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรจีนชี้ว่า ในปีที่ผ่านมาสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งมีสมาชิก 10 ชาติเป็นผู้รับสินค้าส่งออกจากจีนมากที่สุด มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 5.865 แสนล้านดอลลาร์

เวียดนามเป็นผู้ซื้อสินค้าจีนมากที่สุดในอาเซียน 1.619 แสนล้านดอลลาร์ตามด้วยมาเลเซีย 1.015 แสนล้านดอลลาร์

ตอนแรกเวียดนาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตใหญ่ในภูมิภาครีบติดต่อสหรัฐขอชะลอภาษีที่ถูกเรียกเก็บในอัตรา 46%ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศระงับภาษีให้กับประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน

ฮวง เลอทู ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการเอเชียของอินเตอร์เนชันแนลไครสิสกรุ๊ป กล่าวว่าอย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็น 145 %แม้จะมีการผ่อนผันชั่วคราวรวมถึงการยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ภาษีทรัมป์ก็ “สร้างความวิตกกังวลอย่างมาก” ให้กับประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย

การทูตไผ่ลู่ลม

การเยือนเวียดนามของสีในวันจันทร์และอังคาร (14-15 เม.ย.) เป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2023 เวียดนามใช้ “การทูตไผ่ลู่ลม” มายาวนาน รักษาสัมพันธ์อันดีทั้งกับจีนและสหรัฐ เวียดนามกังวลเหมือนกับสหรัฐกับการที่ปักกิ่งรุกอ้างกรรมสิทธิ์ในน่านน้ำข้อพิพาททะเลจีนใต้ แต่เวียดนามก็มีสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดกับจีน

จากเวียดนามสีจะไปเยือนมาเลเซียระหว่างวันอังคารถึงวันพฤหัสบดี (15-17 เม.ย.) ฟาห์มี ฟาดซิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซียกล่าวว่า การมาของสีเป็น “ส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการกระชับสัมพันธ์ทางการค้าให้ดียิ่งขึ้นกับนานาประเทศรวมทั้งจีน”

จากนั้นในวันพฤหัสบดีสีจะเดินทางต่อไปยังกัมพูชา หนึ่งในพันธมิตรโดดเด่นที่สุดของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปักกิ่งขยายอิทธิพลเข้ามามากในช่วงหลัง

“สายสัมพันธ์กัมพูชา-จีนไม่เคยเปลี่ยน เรามีแต่จะทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต กล่าวในงานเปิดตัวถนนทุนจีนสายใหม่เมื่อไม่นานมานี้

การมาเยือนของสีจะยืนยันความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ เขาเรียกจีนเป็น “หุ้นส่วนหลัก” ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา

ทั้งนี้ การกระชับสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจช่วยชดเชยผลกระทบจากสหรัฐ ประเทศผู้นำเข้าสินค้าจีนรายใหญ่สุดในปีที่ผ่านมา

"ปักกิ่งต้องการใช้ช่วงเวลานี้ แสดงให้เห็นว่าตนเองไม่ได้บีบบังคับและสนใจแต่ตัวเองเหมือนอย่างสหรัฐจีนเป็นศูนย์กลางอำนาจที่มีอิทธิพลและมั่นคงในภูมิภาค และจะมีแรงดึงดูดแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเท่านั้น” เลอทูจากไอซีจีสรุป