'รัสเซีย' โจมตีเมืองซูมีของยูเครนหนัก! ประชาชนเสียชีวิต 34 เจ็บ 117 ราย

รัสเซียโจมตีเมืองซูมีของยูเครนอย่างหนัก ทำให้ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 34 ราย บาดเจ็บ 117 ราย นับเป็นการโจมตีที่นองเลือดที่สุดในปีนี้
รัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูกโจมตีใจกลางเมืองซูมี ทางตอนเหนือของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (13 เม.ย.) คร่าชีวิตผู้คนไป 34 ราย บาดเจ็บ 117 ราย ซึ่งถือเป็นการโจมตียูเครนที่นองเลือดที่สุดในปีนี้
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้นานาชาติตอบโต้มอสโกอย่างหนักต่อการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามยุติสงครามนี้โดยเร็วแต่ก็ดำเนินการได้อย่างยากลำบาก
ปธน.เซเลนสกีโพสต์วิดีโอในโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นร่างผู้เสียชีวิตตามท้องถนนในใจกลางเมือง ใกล้กับรถบัสที่เสียหายและรถยนต์ที่ถูกเผาไหม้
“การพรากชีวิตของคนธรรมดาทั่วไป มีแต่คนชั่วเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้” ประธานาธิบดียูเครนกล่าว และเสริมว่าการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในวันปาล์มซันเดย์ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนบางส่วนเดินทางไปโบสถ์
เซเลนสกียังได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ของซีบีเอสที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ โดยเรียกร้องให้ทรัมป์ไปเยือนยูเครน
“ได้โปรดมาเยี่ยมดูประชาชน พลเรือน ทหาร โรงพยาบาล โบสถ์ เด็กๆ ความเสียหายและคนที่เสียชีวิต”
ผู้นำของอังกฤษ เยอรมนี และอิตาลีได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าว
โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โพสต์ในแพลตฟอร์ม X ประณามการโจมตีอันโหดร้ายนี้อย่างถึงที่สุด และว่า การโจมตีดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความจริงเกี่ยวกับความพร้อมเพื่อสันติภาพของรัสเซีย
“แทนที่จะมีความพร้อมสันติภาพ เรากลับได้เห็นว่ารัสเซียยังคงทำสงครามรุกรานยูเครนอย่างไม่ปรานี” โชลซ์ ระบุ
ด้านมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้แถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหยื่อในเหตุการณ์นี้ และว่า การโจมตีเป็นเครื่องเตือนใจที่น่าเศร้าว่าทำไมประธานาธิบดีทรัมป์ และรัฐบาลสหรัฐทุ่มเทเวลาและมีความพยายามอย่างมากในการยุติสงคราม
ทั้งนี้ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ เจ้าหน้าที่สหรัฐได้จัดประชุมแยกกับเจ้าหน้าที่ของเครมลินและเคียฟ เพื่อพยายามเดินหน้าสู่การยุติสงครามในยูเครน
ด้านทางการรัสเซียยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อรอยเตอร์สติดต่อไป และรัสเซียปฏิเสธการโจมตีประชาชน ขณะที่มีคนหลายพันคนต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการรุกรานยูเครน
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์รัสเซียยังได้ส่งโดรนโจมตีในเมืองท่าทะเลดำ โอเดซา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 5 คน และสร้างความเสียหายให้กับพยาบาล
ทั้งนี้ การโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ เกิดขึ้นหลังจากมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธในเมืองครีฟยีรีห์ ทางภาคกลางของยูเครน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเซเลนสกี ซึ่งอยู่ห่างไกลจากแนวหน้าสงครามในตะวันออกและใต้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน รวมเด็ก 9 คน
ส่วนเมืองซูมี ซึ่งมีประชากรราว 250,000 คนและตั้งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 25 กิโลเมตร กลายเป็นเมืองแห่งทหารเมื่อกองกำลังของเคียฟเปิดฉากการรุกรานรัสเซียในเดือนสิงหาคม ซึ่งต่อมาก็ถูกผลักกลับได้เป็นส่วนใหญ่
อาร์เทม โคบซาร์ นายกเทศมนตรีรักษาการของซูมี ประกาศไว้อาลัยให้กับเหยื่อเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (14 เม.ย.) นี้
อันเดรย์ เยอร์มัค หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของเซเลนสกีกล่าวว่าขีปนาวุธมีระเบิดลูกปรายรวมอยู่ด้วย
“รัสเซียกำลังทำเช่นนี้เพื่อสังหารพลเรือนให้ได้มากที่สุด” เยอร์มัคกล่าว
อ้างอิง: Reuters