‘จีน’ โต้ภาษีทรัมป์ เสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ สินค้าอะไรแพงขึ้น

‘จีน’ โต้ภาษีทรัมป์ เสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ สินค้าอะไรแพงขึ้น

“รัฐบาลปักกิ่ง” เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เป็น 125% ตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มภาษีสินค้าจีน สร้างความเสี่ยงทำสงครามการค้า กระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

KEY

POINTS

Key Pionts

  • การขึ้นภาษีตอบโต้กันระหว่างสหรัฐ และจีนครั้งนี้ จะทำให้การค้าสินค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก ไม่อาจเป็นไปได้ เหมือนเมื่อปี 2567 มีมูลค่าการค้า มากกว่า 650,000 ล้านดอลลาร์
  • นักวิเคราะห์ของ UBS แสดงความเห็นในคำประกาศของจีน โดยชี้ "นี่เป็นสร้างการรับรู้ว่า การค้าระหว่างสองประเทศถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง"
  • รัฐบาลปักกิ่ง เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เป็น 125% ตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มภาษีสินค้าจีน สร้างความเสี่ยงทำสงครามการค้า กระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

การตอบโต้ของจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน เนื่องมาจากมาตรการขึ้นภาษีทรัมป์ และยังผลส่งให้หุ้นสหรัฐผันผวนสูงขึ้นในช่วงปิดตลาดสัปดาห์นี้ แต่การซื้อขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย กลับทำสถิติสูงสุด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานก็เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่ปี 2544 ประกอบกับดอลลาร์ที่ร่วงลง ซึ่งบ่งชี้ถึงนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อบริษัทอเมริกัน

เมื่อทรัมป์ประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่จากสหรัฐ ลงเหลือ 10% เป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางให้เจรจาการค้า ได้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาด โดยคาดการณ์ว่า ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น 

“เมื่อผู้คนเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังทำ ผมคิดว่าค่าเงินดอลลาร์จะพุ่งสูงขึ้นมาก” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อช่วงดึกของวันศุกร์ (11 เม.ย.) และชี้ว่า อาจมีเหตุการณ์บ้างในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็แก้ปัญหานั้นได้อย่างรวดเร็ว

ตลาดพันธบัตรมูลค่า 29 ล้านล้านดอลลาร์ เผชิญกับการเทขายอย่างรุนแรงหลังจากที่ทรัมป์ประกาศครั้งแรกเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ภาษีแบบตอบแทน โดยความปั่นป่วนดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธ หยุดดำเนินการทางภาษีกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ เป็นเวลา 90 วัน นอกเหนือจากจีน

ทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันพุธเป็นต้นมา มีมากกว่า 75 ประเทศพยายามเจรจาการค้ากับสหรัฐ และข้อตกลงในอนาคต

อินเดีย และญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศมหาอำนาจที่สามารถบรรลุข้อตกลงด้านการค้าได้รวดเร็ว แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้นำต่างประเทศต่างรู้สึกสับสนว่า จะปรับท่าทีให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นกับระเบียบการค้าโลกในรอบหลายทศวรรษนี้ อย่างไร

การค้าสองมหาอำนาจ ไม่เหมือนเดิม

นักวิเคราะห์มองว่า การขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้กันระหว่างสหรัฐ และจีนครั้งนี้ จะทำให้การค้าสินค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก ไม่อาจเป็นไปได้เหมือนก่อน โดยเมื่อปี 2567 มีมูลค่าการค้า มากกว่า 650,000 ล้านดอลลาร์

แม้การจัดเก็บภาษีดังกล่าว อาจสร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ส่งออก เพราะทำให้สินค้าของตนเอง มีความสามารถในการแข่งขันน้อยลง แต่เรื่องการจ่ายภาษีเป็นสิ่งที่ผู้นำเข้าต้องเป็นคนจ่าย  ซึ่งมักจะโยนต้นทุนเพิ่มเติมให้ผู้บริโภค

ทรัมป์ กล่าวด้วยความสบายใจเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับภาษีที่เรียกเก็บจากจีน พร้อมได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงกับปักกิ่งเช่นกัน โดยทรัมป์แสดงความชื่นชมประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการค้า แต่ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่า 2 ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก จะล่าถอยต่อเรื่องนี้

‘จีน’ โต้ภาษีทรัมป์ เสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ สินค้าอะไรแพงขึ้น

ตอบโต้กลับ สหรัฐโจมตีหนักกว่าเดิม

แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า "ประธานาธิบดีกล่าวอย่างชัดเจนว่า เมื่อสหรัฐโดนโจมตี เขาจะตอบโต้กลับหนักกว่า"

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานได้เคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับราคา มีอัตราผลตอบแทนรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก ท่ามกลางความวิตกว่า จีนอาจกำลังขายพันธบัตรสหรัฐที่จีนถือครองอยู่จำนวนมาก

บิลล์ อดัมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Comerica Bank ชี้ว่า "การเก็บภาษีศุลกากรจะมีความสำคัญต่อแนวโน้มในอนาคต มากกว่าข้อมูลย้อนหลัง หากการเก็บภาษีศุลกากรยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป เงินเฟ้อก็จะสูงขึ้นอย่างมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"

มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งลดลงเหลือ 50.8 ในเดือนนี้จาก 57.0 ในเดือนมี.ค. ขณะที่รอยเตอร์ได้สำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจคาดการณ์ว่า ดัชนีจะลดลงอยู่ที่ 54.5

เมื่อเปรียบเทียบการสำรวจครั้งก่อนๆ พบว่า ความเชื่อมั่นของสมาชิกพรรครีพับลิกันของทรัมป์พลิกกลับจากที่เคยลดลง

เปิดฉาก สงครามการค้ารอบใหม่

สัปดาห์นี้ ทรัมป์ประกาศผ่อนผันการจัดเก็บภาษีกับหลายสิบประเทศ แต่กลับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145%

จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังจีนกล่าวว่า การเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์เป็น "การกลั่นแกล้ง และบีบบังคับฝ่ายเดียว"

ปักกิ่งระบุว่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นตามมาตรการของสหรัฐ แต่ยังคงเปิดโอกาสให้มีการตอบโต้ในรูปแบบอื่นๆ

หลิว เผิงหยู โฆษกสถานทูตจีนประจำสหรัฐ โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า "หากสหรัฐ ต้องการเจรจาจริงๆ ก็ควรหยุดพฤติกรรมเอาแต่ใจ และทำลายล้าง จีนจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันสูงสุดจากสหรัฐ เป็นเด็ดขาด"

นักวิเคราะห์ของ UBS แสดงความเห็นในคำประกาศของจีน โดยชี้ "นี่เป็นสร้างการรับรู้ว่า การค้าระหว่างสองประเทศถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง"

ในทางกลับกัน โฆษกทำเนียบข่าวส่งคำเตือนปักกิ่งว่า "หากจีนยังคงตอบโต้ต่อไป นั่นไม่ใช่เรื่องดีสำหรับจีน"

เปิดลิสต์สินค้าแพงขึ้น

ภาษีของทรัมป์ อาจทำให้ราคาสินค้านำเข้าหลายรายการพุ่งสูงขึ้นมาก

‘จีน’ โต้ภาษีทรัมป์ เสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ สินค้าอะไรแพงขึ้น

UBS ได้ประมาณการวัสดุก่อสร้างที่อยู่อาศัย และส่วนวัสดุก่อสร้างอื่นๆ S&Pได้ประมาณการวัสดุในอุตสาหกรรมสิ่งทอ คาดว่าจะปรับราคาสูงขึ้นเริ่มต้นที่ 28%

อย่างไรก็ตามตารางนี้ได้แสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์นำเข้าและราคาโดยประมาณที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจเป็นผลมาจากการจัดเก็บภาษีครั้งใหญ่ของทรัมป์ ซึ่งมีตั้งแต่ 10% สำหรับอุปกรณ์วินิจฉัยทางการแพทย์ ขณะที่ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ของเล่น และวิดีโอเกมจะเพิ่มสูงถึง 30% 

อ้างอิง : Reuters