ทรัมป์เข้มผู้อพยพ สะเทือนถึง 'เบียร์' ฉุดยอดขายร่วง!

มาตรการเข้มงวดต่อผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เพียงสั่นคลอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวฮิสแปนิกในสหรัฐ แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายเบียร์ของ Constellation Brands เจ้าของสิทธิแบรนด์ Corona ในตลาดสหรัฐด้วย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นอกจากมาตรการภาษีทรัมป์แล้ว จุดยืนที่เข้มงวดของทรัมป์ต่อเรื่อง “การเข้าเมือง” ก็ส่งผลกระทบต่อ “ยอดขายเบียร์” เช่นกัน โดยบริษัทเบียร์ที่ได้รับผลกระทบหลัก คือ “Constellation Brands” ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กว่า 100 แบรนด์ และยังเป็นเจ้าของสิทธิในแบรนด์เบียร์ Corona ในตลาดสหรัฐด้วย
เหตุผลเนื่องจากผู้บริโภคชาวฮิสแปนิกที่ใช้ภาษาสเปนในสหรัฐใช้จ่ายน้อยลง ตามที่บิล นิวแลนด์ส์ ซีอีโอของ Constellation กล่าวกับนักวิเคราะห์ในการประชุมทางโทรศัพท์ของบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดย “ประมาณครึ่งหนึ่ง” ของยอดขายเบียร์ของ Constellation มาจากผู้บริโภคชาวฮิสแปนิก ซึ่งคิดเป็น 78% ของรายได้รวมทั้งหมดในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณบริษัท
“ความจริงก็คือ ตอนนี้ผู้บริโภคจำนวนมากในชุมชนชาวฮิสแปนิกกำลังกังวล โดยมากกว่าครึ่งรู้สึกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเข้าเมือง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขา” นิวแลนด์ส์กล่าว “หลายคนกังวลถึงการสูญเสียงานในอุตสาหกรรมที่มีชาวละตินทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก”
ผลที่ตามมา คือ ผู้บริโภคชาวฮิสแปนิกในสหรัฐตัดสินใจลดการใช้จ่ายในร้านอาหาร เสื้อผ้า และการท่องเที่ยวลง
“เบียร์อาจไม่ใช่สิ่งแรกที่ผู้บริโภคตัดลด แต่ก็อยู่ในรายการแน่นอน เพราะกิจกรรมอย่างการพบปะสังสรรค์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้บริโภคชาวฮิสแปนิกมักดื่มเบียร์ กำลังลดลงในตอนนี้” นิวแลนด์ส์กล่าว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Constellation ได้ประกาศประมาณการผลประกอบการสำหรับปีงบประมาณ 2026 ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และปรับลดแนวโน้มในระยะกลางลง โดยการคาดการณ์ดังกล่าวได้รวมผลกระทบจากภาษีนำเข้าใหม่ไว้แล้ว
แม้ว่าในวันพุธ ทรัมป์จะลดอัตราภาษีตอบโต้ชั่วคราวสำหรับประเทศต่าง ๆ (ยกเว้นจีน) แต่เบียร์กระป๋องของ Constellation ที่นำเข้าจากเม็กซิโก ก็ยังคงต้องเสียภาษีอลูมิเนียมในอัตรา 25%
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ Constellation ดูเหมือนน่าผิดหวัง แต่ก็ถูกชดเชยด้วยรายได้และกำไรในไตรมาสล่าสุดที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศเมื่อวันพุธว่า จะขายกิจการไวน์ราคาถูกออกไป เพื่อมุ่งเน้นที่แบรนด์ไวน์ระดับพรีเมียมมากขึ้น
อ้างอิง: cnbc







