'ทรัมป์' ชะลอเก็บภาษีออกไป 90 วัน หลังกังวลตลาดพันธบัตรพัง เหตุญี่ปุ่นเทขายหนัก ?

'ทรัมป์' ชะลอเก็บภาษีออกไป 90 วัน หลังกังวลตลาดพันธบัตรพัง เหตุญี่ปุ่นเทขายหนัก ?

พันธบัตรสหรัฐ ถูกเทขายอย่างรุนแรงท่ามกลางวิกฤตสงครามภาษี โดย Fox News รายงานโดยอ้างอิงเเหล่งข่าวว่า เป็นแรงเทขายจากนักลงทุนญี่ปุ่น ส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นที่ถดถอยต่อสถานะ "สินทรัพย์ปลอดภัย" ของสหรัฐ

ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ประสบกับการเทขายอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ จะประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นกับจีนซึ่งถูกปรับขึ้นเป็น 125% โดยสำนักข่าว Fox News รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่โดยไม่ได้ระบุชื่อว่า "ญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดอาจมีบทบาทสำคัญในการเทขายครั้งนี้

'ทรัมป์' ชะลอเก็บภาษีออกไป 90 วัน หลังกังวลตลาดพันธบัตรพัง เหตุญี่ปุ่นเทขายหนัก ? ความเคลื่อนไหวบอนด์ยีลด์สหรัฐ (10 เม.ย. 2568)

การเทขายครั้งรุนแรงและผลกระทบต่อตลาด

ตามรายงานของ Reuters เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยมีช่วงหนึ่งที่การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนในสัปดาห์นี้สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 แม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงบ้างหลังจากการประมูลพันธบัตรมูลค่า 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นไปตามความคาดหวังของตลาด

คาลวิน เยห์ ผู้จัดการกองทุนจากบลู เอดจ์ แอดไวเซอร์ส กล่าวกับ Bloomberg เมื่อวันที่ 9 เมษายนว่า "นี่คือการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ผมไม่เคยเห็นการเคลื่อนไหวหรือความผันผวนขนาดนี้นับตั้งแต่ความวุ่นวายในช่วงการแพร่ระบาดในปี 2563"

บทบาทของญี่ปุ่นในการเทขาย

สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ว่านักลงทุนญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นผู้ขายสุทธิพันธบัตรต่างประเทศในเดือนมีนาคม เป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน โดยขายพันธบัตรมูลค่า 9.027 แสนล้านเยน (6.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) กลับทิศทางจากเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการซื้อสุทธิ 3.3 ล้านล้านเยน

'ทรัมป์' ชะลอเก็บภาษีออกไป 90 วัน หลังกังวลตลาดพันธบัตรพัง เหตุญี่ปุ่นเทขายหนัก ?

ญี่ปุ่นลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศลงในเดือนมีนาคมอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ​เมื่อวันอังคารที่ผ่านมายังระบุว่า นักลงทุนในประเทศญี่ปุ่นได้ซื้อพันธบัตรสหรัฐ มูลค่า 1.91 ล้านล้านเยนในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นยอดรายเดือนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 และซื้อพันธบัตรยุโรปมูลค่า 1.68 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ในขณะที่การซื้อขายสินทรัพย์ดังกล่าวในเดือนมีนาคมลดลงอย่างเห็นได้ชัด

สัญญาณเตือนต่อสถานะ "สินทรัพย์ปลอดภัย" ของสหรัฐ

ขณะที่สำนักข่าว The New York Times รายงานเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ว่าการเทขายดังกล่าวสะท้อนถึงการสูญเสียความเชื่อมั่นในสหรัฐ ในฐานะเสาหลักของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มเคลื่อนย้ายเงินไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน และทองคำ

ส่วนบทวิเคราะห์ของ J.P. Morgan Asset Management ให้ความเห็นว่า "ดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยระดับโลกกำลังถูกตั้งคำถาม การเคลื่อนไหวที่ไร้ทิศทางเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้เพราะไม่มีที่ปลอดภัยให้หลบซ่อน"

เมื่อพิจารณาท่าทีทั้งหมดประกอบกัน นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งต่างตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจชะลอการเก็บภาษีแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับหลายประเทศยกเว้นประเทศจีนอาจจะเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าทรัมป์กังวลกับการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหรือไม่

ผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์

ตามรายงานของ Reuters เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ โดยเจนส์ นอร์ดวิก นักวิเคราะห์จาก Exante Data กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมามีลักษณะคล้ายตลาดเกิดใหม่ (EM-like)  โดยปกติแล้วดอลลาร์มักจะแข็งค่าในช่วงที่ตลาดผันผวน แต่มาตรการภาษีของทรัมป์คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอตัวลงและนักเศรษฐศาสตร์กังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอย

'ทรัมป์' ชะลอเก็บภาษีออกไป 90 วัน หลังกังวลตลาดพันธบัตรพัง เหตุญี่ปุ่นเทขายหนัก ? ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แบบสป็อตของ Bloomberg 

ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ พยายามลดความกังวลของตลาดลงเมื่อวันพุธ โดยกล่าวหาว่าการขายในตลาดพันธบัตรเกิดจากนักลงทุนที่ซื้อสินทรัพย์ด้วยเงินกู้และตอนนี้ต้องชดใช้ความสูญเสีย

"ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรเป็นระบบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมคิดว่ามันเป็นการลดสัดส่วนการลงทุนที่ไม่สบายใจแต่เป็นเรื่องปกติที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดพันธบัตร" เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Fox Business เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

ท้ายที่สุด การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ครั้งนี้เป็นสัญญาณที่น่ากังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นระยะยาวในเศรษฐกิจสหรัฐ และสถานะของดอลลาร์สหรัฐ ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก แม้ว่าการประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์จะช่วยบรรเทาความตึงเครียดในตลาดได้บ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินหลายคนกล่าวว่าจะมีความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความต้องการดอลลาร์และสินทรัพย์ที่อิงกับดอลลาร์ลดลงในอนาคต

อ้างอิง Reuters, Fox News, The New York Times, Bloomberg