'7 หุ้นนางฟ้า' เกือบหลับแต่กลับมาได้ มูลค่าพุ่ง 1.5 ล้านล้านดอลล์ รับข่าวทรัมป์

7 หุ้นนางฟ้า เกือบหลับแต่กลับมาได้ ! มูลค่าตลาดพุ่ง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ รับข่าวทรัมป์พักรบภาษี ขยายออกไป 90 วัน เรียกความสนใจนักลงทุน เมื่อธุรกิจ AI ไปต่อ
รอยเตอร์รายงานว่า 7 หุ้นนางฟ้ากลุ่ม "Magnificent Seven" บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 7 บริษัท มีมูลค่าตลาดรวมกันเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศระงับขึ้นภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.68) ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่เหล่านี้ ที่ราคาได้ปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงล่าสุด
Nvidia, Apple, Tesla, Microsoft, Alphabet (บริษัทแม่ของ Google), Meta (บริษัทแม่ของ Facebook) และ Amazon ต่างปิดตลาดในวันพุธด้วยราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก โดยมีช่วงการเพิ่มขึ้นระหว่าง 9.68% ถึง 22.69% แรงซื้อที่แข็งแกร่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ตลาดโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 12%
อย่างไรก็ตาม การพุ่งทะยานครั้งล่าสุดยังไม่สามารถชดเชยมูลค่าตลาดที่ 7 หุ้นนางฟ้าสูญเสียไปตั้งแต่การทำนิวไฮครั้งล่าสุด ในช่วงปลายปี 2024
7 หุ้นนางฟ้าเดินหน้าพัฒนา AI
การประกาศระงับการขึ้นภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันของทรัมป์ ได้จุดประกายความหวังใหม่ในตลาดหุ้น โดยเฉพาะ "Magnificent Seven"
ไมเคิล แอชลีย์ ชูลแมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Running Point Capital มองว่า การพักรบทางการค้าในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงด้านการเงิน และการดำเนินงาน ของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้มีเวลามากขึ้นในการดำเนินตามแผนการขยายธุรกิจด้าน AI ที่อาจต้องหยุดชะงักไปก่อนหน้านี้เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้า
เมื่อการนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ชิป AI และฮาร์ดแวร์เฉพาะทางจากผู้ผลิตในไต้หวันหรือเกาหลีใต้ เผชิญกับความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากร การระงับภาษีจึงเป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้บริษัทเหล่านี้ได้หายใจ และเดินหน้าตามแผนการพัฒนา AI ได้อย่างต่อเนื่อง
วานนี้ Alphabet ได้ยืนยันแผนการที่จะลงทุนประมาณ 75,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของศูนย์ข้อมูล
ในขณะที่ Microsoft ก็ระบุว่า บริษัทกำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล โดย Microsoft กล่าวเมื่อวันอังคารว่า "การลงทุนเหล่านี้ได้รับแรงผลักดันจากสัญญาณความต้องการทั้งในระยะใกล้ และระยะยาว" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบริษัทเหล่านี้ต่อการเติบโตของตลาด AI ในอนาคต
อ้างอิง Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







