ทรัมป์ไม่ยอม! ขึ้นภาษีจีน 125% หลังจีนสู้กลับ ขึ้นภาษีสหรัฐ 84%

ทรัมป์ไม่ยอม! ขึ้นภาษีจีน 125% หลังจีนสู้กลับ ขึ้นภาษีสหรัฐ 84%

ทรัมป์ขึ้นภาษีจีนเป็น 125% หลังจีนสู้กลับ! ขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐเป็น 84% พร้อมขยายเวลาขึ้นภาษี 60 ประเทศไปอีก 90 วัน จีนลั่นสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ พร้อมตอบโต้อย่างแข็งกร้าว

บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนขึ้นเป็น 125% โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลปักกิ่ง "ไม่ให้ความเคารพ" หลังจากที่ “จีน”ตอบโต้ต่อนโยบายภาษีศุลกากร ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”  โดยประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มอีก 50% เป็น 84% จากเดิม 34% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.

ขณะเดียวกันทรัมป์ยังประกาศชะลอการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งเป็นการเกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ หลังจากที่อเมริกาเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าประมาณ 60 ประเทศได้ไม่กี่ชั่วโมง โดยทรัมป์กล่าวว่าเขาได้อนุมัติให้มีการ "ลดภาษีซึ่งกันและกันลง 10 เปอร์เซ็นต์" ในขณะที่การเจรจาทางการค้ายังคงดำเนินต่อไป

 

คณะกรรมาธิการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนประกาศว่า การปรับขึ้นภาษีครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อการที่สหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจากจีนมากกว่า 100% ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา

กระทรวงการคลังของจีนเผยแพร่ข้อมูลผ่านรายการข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) ระบุว่า นอกจากการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น จีนยังขึ้นบัญชีดำบริษัทสัญชาติอเมริกัน 6 แห่งใน “บัญชีนิติบุคคลไม่น่าเชื่อถือ” และเพิ่มอีก 12 บริษัทลงใน “บัญชีควบคุมการส่งออก” ซึ่งหมายความว่า บริษัทจีนจะไม่สามารถทำธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ได้อีกต่อไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ประกาศใช้นโยบายภาษีศุลกากรใหม่พร้อมทั้งเตือนประเทศอื่น ๆ ไม่ให้ตอบโต้มาตรการดังกล่าว ในขณะที่บางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น แสดงท่าทีพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับประเด็นภาษีศุลกากร แต่จีนกลับแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวและประกาศตอบโต้ภาษีศุลกากรอย่างรวดเร็ว

จีนพร้อมสู้เต็มที่

กระทรวงการคลังของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า "การที่สหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีนอย่างร้ายแรง และยังบ่อนทำลายระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดถือกฎเกณฑ์สากลอย่างร้ายแรงอีกด้วย"

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวในแถลงการณ์สมุดปกขาวว่า "หากสหรัฐยังคงยืนกรานที่จะเพิ่มข้อจำกัดทางการค้า จีนมีความมุ่งมั่นและมีวิธีการที่จะตอบโต้อย่างแข็งกร้าว  สงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ จีนไม่ต้องการสงครามการค้า แต่รัฐบาลจีนจะไม่ยอมให้สิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประชาชนจีนต้องถูกคุกคามหรือถูกพรากไป"

จีนตอบโต้สหรัฐ หลังจากเมื่อวันที่ 2 เม.ย.  ทรัมป์ได้ประกาศเพิ่มภาษีอีก 50% ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนโดยรวมสูงถึง 104%

สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้น!

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ “สก็อตต์ เบสเซนต์” กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์บิสซิเนสภายหลังจากที่จีนประกาศข่าวการตอบโต้ล่าสุดว่า

 "เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่จีนไม่เต็มใจที่จะเข้ามาเจรจา เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้กระทำผิดร้ายแรงที่สุดในระบบการค้าระหว่างประเทศ พวกเขามีระบบเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ และผมขอบอกเลยว่าการยกระดับความรุนแรงนี้ถือเป็นความสูญเสียสำหรับพวกเขา"

ประชาชนชาวจีนทั่วไปเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดย หลิง วานฮวา ชาวเซี่ยงไฮ้วัย 20 ปี กล่าวว่า "สถานการณ์ได้พัฒนาไปสู่สงครามการค้าและการเงินบนเวทีโลก ตอนนี้บัณฑิตจบใหม่หางานยากขึ้น หากสภาพแวดล้อมโดยรวมแย่ลง สถานการณ์การจ้างงานของบัณฑิตก็จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก"

นอกจากนี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำระดับสูงของจีนมีแผนที่จะจัดการประชุมโดยเร็วที่สุดเมื่อวานนี้(9เม.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุน

อ้างอิง  CNBC reuters