5 วิธี Pro-active รับมือแผ่นดินไหวแบบญี่ปุ่น | กันต์ เอี่ยมอินทรา

เผย 5 วิธี คนญี่ปุ่นรับมืออย่างไร เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งการรับมือหลักมีจุดเริ่มต้นมาจากการวางโครงสร้างที่รองรับแผ่นดินไหวได้ ไปจนถึงการแจ้งเตือนภัย
ขณะที่ไทยเพิ่งเจอแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง แต่ญี่ปุ่นกลับประสบภัยแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติแล้ว 10%ของแผ่นดินไหวรุนแรงทั่วโลกที่เกินระดับ 6 นั้นอยู่บริเวณรายรอบเกาะญี่ปุ่น
แผ่นดินไหวรุนแรงที่ญี่ปุ่นเจอล่าสุดก็เมื่อปี 2011 ที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ทั้งทำลายบ้านเรือนและที่สำคัญคือ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งก็เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน และล่าสุดก็มีประกาศเตือนถึงมหาแผ่นดินไหวที่ประมาณความเสียหายอาจสูงถึง 1.8 ล้านล้านเหรียญและอาจคร่าชีวิตผู้คนถึง 3 แสนคน
แล้วคนญี่ปุ่นมีวิธีการรับมือกับแผ่นดินไหวอย่างไร? เมื่อจำต้องอยู่บนความเสี่ยงภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถประมาณการได้เหล่านี้
1. โครงสร้างพื้นฐานล้วนถูกออกแบบมาเพื่อรับแรงสะเทือนจากแผ่นดินไหวเริ่มตั้งแต่การมีกฎหมายกำกับที่ชัดเจน ไล่เรื่อยมาจนถึงเทคนิคการก่อสร้าง ทั้งที่สั่งสมจากภูมิปัญญาแต่โบราณกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ตึกสกายทรีที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นนั้นก็ออกแบบโดยใช้เทคนิคเดียวกับทรงเจดีย์โบราณของญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้ทำให้มีการประมาณการว่าตึกกว่า 87% ของโตเกียว นั้นสามารถรับมือกับแผ่นดินไหวได้
2. รถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นมีระบบในการจับความเคลื่อนไหวของแผ่นดินไหวและหยุดรถโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสี่ยงการตกราง และระบบได้ถูกพิสูจน์ว่าได้ผลดีมากเมื่อ 27 ขบวนรถไฟที่กำลังแล่นระหว่างแผ่นดินไหวระดับ 9.0 ที่โทโฮคุในปี 2011 หยุดโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้สักคนเดียว
3. ประกาศแจ้งเตือน ทั้งทางโทรศัพท์และสื่อต่างๆอาทิ โทรทัศน์ โดยการแจ้งเตือนนี้มักจะมีสองแบบคือ หนึ่ง การประมาณการคร่าวๆ หากเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นดิน และสอง การแจ้งเตือนแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนเกิดเพียงไม่กี่นาทีหรือวินาที หรือไม่ก็แจ้งเตือนทันทีที่เกิดขึ้น มิใช่หลังจากเหตุกาณ์เกิดขึ้นแล้วเป็นเวลานานแบบไทย
4. อุโมงค์ยักษ์แห่งกรุงโตเกียวมูลค่า 3,000 ล้านเหรียญ ที่อยู่ภายใต้สนามฟุตบอลและสนามสเก็ตขนาดใหญ่รายรอบกรุงโตเกียว ทำหน้าที่เสมือนแก้มลิงเพื่อรองรับภาวะน้ำท่วมฉับพลันจากพายุไซโคลนหรือสึนามิ และเชื่อมต่อกับแม่น้ำเอโดะซึ่งมีเขื่อนกั้นตลิ่งที่สูงเพื่อระบายน้ำออก
5. สร้างความพร้อมและความเข้าใจแก่ประชาชนตั้งแต่การให้การศึกษา วิธีการหลบ/รับภัยในกรณีต่างๆ การซักซ้อมทางหนีทีไล่ ไล่เรื่อยมาจนถึงการเตรียมอุปกรณ์ยังชีพยังสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ในบ้าน กระทั่งลิฟต์โดยสารสาธารณะ ทั้งนี้การสร้างความพร้อมและความเข้าใจในภัยธรรมชาติเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงระดับการสร้างพิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว
จะเห็นได้ว่าญี่ปุ่นมีการเตรียมรับมือแผ่นดินไหวอย่างจริงจัง มีงบประมาณสนับสนุน ประชาชนและรัฐรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อจุดหมายเดียวกันคือ ลดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากภัยธรรมชาตินี้ให้มากที่สุด ซึ่งไทยเราสามารถศึกษาข้อดีและจุดแข็งมาเพื่อปรับใช้และเตรียมพร้อมรับมือกับภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต







