‘เนทันยาฮู’ ผู้นำคนแรก รุดเจรจา ‘ทรัมป์’ ภาษีสหรัฐ ในวอชังตัน

‘เนทันยาฮู’ ผู้นำคนแรก รุดเจรจา ‘ทรัมป์’ ภาษีสหรัฐ ในวอชังตัน

“เนทันยาฮู“ เตรียมเยือนวอชิงตัน ดี.ซี. เจรจาทรัมป์ หวังเจรจาภาษีที่อิสราเอลได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นการเดินทางแบบไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า

รอยเตอร์สรายงานวันนี้ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล แถลงเมื่อวันเสาร์ (5 เม.ย.)ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน เพื่อหารือมาตรการภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดขึ้นและมีผลประกาศใช้แล้ว รวมถึงสถานการณ์ในภูมิภาคต่างๆ

เจ้าหน้าที่อิสราเอล และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เปิดเผยตรงกันก่อนหน้านี้ว่า เนทันยาฮูมีกำหนดพบกับทรัมป์ในวันจันทร์ที่จะมาถึงนี้ (7 เม.ย.) โดยการเยือนครั้งนี้ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า เป็นความพยายามครั้งแรกของผู้นำต่างชาติ ในการเจรจาข้อตกลงกับทรัมป์ เพื่อยกเลิกภาษีศุลกากร

สำนักงานของเนทันยาฮู ระบุในแถลงการณ์ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอยู่ระหว่างเยือนฮังการี จะเดินทางไปวอชิงตันในวันอาทิตย์นี้

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า การประชุมร่วมระหว่างเนทันยาฮูกับทรัมป์ จะครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและตุรกี อิหร่าน ความพยายามของอิสราเอลในการปล่อยตัวตัวประกันในฉนวนกาซา และการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC โดย ICC ได้ออกหมายจับเนทันยาฮูในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซา 

เว็บไซต์ Axios ของสหรัฐได้ รายงานเป็นสื่อแรกว่า เนทันยาฮูจะเยือนวอชิงตัน ดี.ซี.

ทรัมป์ได้ส่งคำเชิญเนทันยาฮู เยือนวอชิงตัน ดี.ซี. ที่สร้างความประหลาดใจ หลังโทรศัพท์คุยกันระหว่างกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยผู้นำอิสราเอลได้หยิบยกประเด็นเรื่องภาษีศุลกากรขึ้นมา ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่อิสราเอล ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

ส่วนประเด็นหนึ่งที่จะผู้นำทั้งสองได้หารือคือนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์ที่ได้ประกาศใช้เร็วๆ ซึ่งสินค้าอิสราเอลจะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรจากสหรัฐ 17%  แม้ว่าสหรัฐจะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด และเป็นหุ้นส่วนทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของอิสราเอลกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การประกาศภาษีศุลกากรล่าสุดของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกเครื่องจักรและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของอิสราเอล

อิสราเอลได้เคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกภาษีศุลกากรที่เหลืออยู่สำหรับการนำเข้าของสหรัฐไปแล้วเมื่อวันอังคาร ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีเมื่อ 40 ปีก่อน และปัจจุบันสินค้าจากสหรัฐ ประมาณ 98% ได้รับการยกเว้นภาษี