อาฟเตอร์ช็อกเขย่าเมียนมา 81 ครั้ง UN วอนโลกช่วยหลังสหรัฐอ่อนแรง
เมียนมาเจออาฟเตอร์ช็อกแล้ว 81 ครั้ง ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 3,354 ราย ส่วนสหรัฐที่เป็นเบอร์ 1 ด้านความช่วยเหลือมนุษยธรรมยังระส่ำ จนท. USAID ที่ไปช่วยเมียนมาถูกไล่ออก 3 คน
กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ของเมียนมารายงานวานนี้ว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกในเมียนมาแล้วถึง 81 ครั้ง มีขนาดตั้งแต่ 2.8 ถึง 7.5 นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.9 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
สื่อของทางการเมียนมาระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 3,354 ราย บาดเจ็บ 4,508 ราย และสูญหายอีก 220 ราย
ทอม เฟลทเชอร์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการบรรเทาภัยพิบัติ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติระหว่างการเยือนเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมา ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยขอให้ประชาคมโลกร่วมมือกันสนับสนุนประชาชนชาวเมียนมา
ทั้งนี้บรรดาประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา เช่น จีน อินเดีย และประเทศในอาเซียน เป็นกลุ่มที่มีบทบาทมากที่สุดในการส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมียนมาตลอดสัปดาห์ที่แล้ว
ในทางกลับกัน "สหรัฐ" ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นผู้บริจาคด้านมนุษยธรรมรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงินอย่างน้อย 9 ล้านดอลลาร์ให้แก่เมียนมาเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐทั้งในปัจจุบันและอดีตกล่าวว่า การยุติโครงการช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการทำงานของสหรัฐในเร่องนี้
มาร์เซีย หว่อง อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) กล่าวกับรอยเตอร์สว่า มีเจ้าหน้าที่ของ USAID 3 คนที่เดินทางไปเมียนมาหลังเกิดแผ่นดินไหว ได้รับแจ้งว่าถูกไล่ออก
“ทีมงานนี้ทำงานกันหนักมาก เน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่กลับได้รับข่าวว่าจะถูกเลิกจ้างในเร็วๆ นี้ แล้วจะไม่ทำให้เสียขวัญกำลังใจได้อย่างไร” หว่องกล่าว
การสู้รบยังดำเนินอยู่
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า กองทัพได้จำกัดการส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว กับเมืองหรือชุมชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
ทาง UNHCR กำลังสอบสวนรายงานการโจมตี 53 ครั้งโดยกองทัพเมียนมาต่อฝ่ายตรงข้าม ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศ 16 ครั้งที่มีรายงานว่าเกิดขึ้นหลังจากที่มีการประกาศหยุดยิงไปแล้วเมื่อวันพุธ
กลุ่มบรรเทาทุกข์ Free Burma Rangers กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันเสาร์ว่า กองทัพได้ทิ้งระเบิดในรัฐกะเหรี่ยงและทางตอนใต้ของรัฐฉานเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ แม้จะมีการประกาศหยุดยิงก็ตาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกกองทัพไม่ได้ตอบรับโทรศัพท์ที่ขอความคิดเห็นในเรื่องนี้