‘เวียดนาม’ ทำทุกทางโน้มใจ ‘ทรัมป์’ ก็ไม่รอดโดนเก็บภาษี 46%

‘เวียดนาม’ ทำทุกทางโน้มใจ ‘ทรัมป์’ ทั้งลดภาษีนำเข้า ซื้อของสหรัฐ ก็ไม่รอดโดนสหรัฐเก็บภาษีตอบโต้ 46% จ่อฉุด GDP โตไม่ถึง 8%
บลูมเบิร์ก รายงานว่า “เวียดนาม” หนึ่งในประเทศเอเชียที่ “ไม่รอด” โดนประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศเก็บ ภาษีตอบโต้ ที่ 46% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดอันดับต้นๆ แม้เคยใช้กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลสหรัฐ ทั้งการลดหย่อนภาษีนำเข้า และให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าขนาดใหญ่จากสหรัฐมากขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจที่พึ่งพาการค้า
เวียดนามทำทุกทางโน้มใจ ‘สหรัฐ’
เวียดนาม ทำหลายขั้นตอนเพื่อโน้มน้าวให้สหรัฐเห็นว่ามีความจริงจังในการลดส่วนเกินทางการค้า ที่เวียดนามเกินดุลไปกว่า 1.23 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกินดุลสหรัฐสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากจีน และเม็กซิโก
หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ โตลัม ได้พบกับ “มาร์ก คนัปเปอร์” เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม และย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลในการเพิ่มการจัดซื้อสินค้าสหรัฐโดยเฉพาะสินค้าเกษตร LNG และสินค้าไฮเทค
เมื่อวัน 31 มี.ค.68 ที่ผ่านมา เวียดนามได้ลดภาษีนำเข้าสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ก๊าซธรรมชาติเหลว และรถยนต์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ
นอกจากนี้ เวียดนามวางแผนที่จะส่งคณะผู้แทนอีกคณะไปยังสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์นี้ นำโดยรองนายกรัฐมนตรี โฮ ดึ๊ก เฟิ้ก และมีผู้บริหารจากบริษัทต่างๆ เช่น Vietnam Airlines JSC, Vietjet Aviation JSC และ VinaCapital Group Ltd. ที่เดินทางไปก่อนการประกาศของทรัมป์แล้ว
Pham Luu Hung หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ SSI Securities Corp. ระบุว่า ภาษีตอบโต้ อาจรบกวนการค้าโลก เนื่องจากห่วงโซ่อุปทาน และความต้องการไม่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในระยะสั้น อย่างไรก็ดี การเจรจาของเวียดนามกับสหรัฐอาจช่วยลดภาระภาษี และนำไปสู่ "พัฒนาการเชิงบวก" ได้
อาจโดนเก็บภาษีสูง 90%
วานนี้ทรัมป์ประกาศว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าขั้นต่ำ 10% สำหรับผู้ส่งออกทั้งหมดไปยังสหรัฐ และจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมกับประมาณ 60 ประเทศ ที่มีความไม่สมดุลทางการค้ากับสหรัฐมากที่สุด
รายงานของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเปิดเผยว่า สหรัฐอาจเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามในอัตราที่สูงถึง 90% โดยรายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องการค้ากับเวียดนามอีกหลายอย่าง เช่น การห้ามนำเข้าสินค้าบางชนิด, ข้อกำหนดที่ยุ่งยากในการขึ้นทะเบียนสินค้า, รวมถึงกฎเกณฑ์ทางเทคนิค และเรื่องสุขอนามัยที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ระบุว่าจะพิจารณาลดอัตราภาษี หากประเทศอื่นๆ ยกเลิกอุปสรรคทางการค้าต่อสินค้าส่งออกของสหรัฐ
ฉุด GDP โตไม่ถึง 8%
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาการค้ามากที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นประมาณ 90% ของ GDP เมื่อปีที่แล้ว ซัพพลายเออร์สำหรับแบรนด์ระดับโลกได้ตั้งโรงงานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ทั่วเวียดนาม ทำให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่กำลังเติบโต โดยผลิตสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่รองเท้าผ้าใบไปจนถึงสมาร์ตโฟน
รวมทั้ง สหรัฐเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ทำให้ภาษีใหม่ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อเป้าหมายอันทะเยอทะยานของประเทศในการเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ได้อย่างน้อย 8% ในปีนี้
รุจิ เดไซ ผู้จัดการกองทุนจาก Asia Frontier Capital ในฮ่องกง กล่าวว่า "หากภาษีเหล่านี้ยังคงอยู่ เราอาจเห็นการปรับลดประมาณการ การเติบโตของ GDP เวียดนาม" รวมทั้งความเชื่อมั่นของตลาดอาจเป็นแนวโน้มเชิงลบ เนื่องจากการส่งออกเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเวียดนาม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







