ขุนคลังสหรัฐเตือน 'อย่าตอบโต้' ภาษีทรัมป์ รอดูเจรจาหลังจากนี้

'สก็อตต์ เบสเซนต์' เตือนทั่วโลกอย่าตอบโต้ภาษีทรัมป์ถ้าไม่อยากเจออัตราที่แรงขึ้น รอดูการเจรจาหลังจากนี้ต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ เรียกร้องให้ประเทศคู่ค้าสหรัฐ "หลีกเลี่ยงการใช้มาตรการตอบโต้" และหันมาเจรจากันแทน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ไปเมื่อวาน หรือช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งเป็นการเก็บภาษี "ทุกประเทศ" มากกว่า 180 ประเทศและเขตแดน
“เป็นผมจะไม่พยายามตอบโต้” เบสเซนต์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กทีวีเมื่อวันพุธ “ตราบใดที่คุณไม่ตอบโต้ นี่คือตัวเลขสูงสุด”
เบสเซนต์กล่าวไม่นานหลังจากที่ทรัมป์เปิดเผย อัตราภาษีพื้นฐานสากล (universal baseline) 10% สำหรับประเทศคู่ค้าหลายราย และเก็บภาษีเพิ่มเติมในอัตราที่สูงขึ้นกว่านั้นมากสำหรับคู่ค้ารายอื่นๆ รวมถึง "จีน" ในอัตรา 34%, "ไทย" 36%, "เวียดนาม" 46% และ "สหภาพยุโรป" 20%
“นี่คือตัวเลขสูงสุดหากไม่มีการตอบโต้” เบสเซนต์ กล่าว “ส่วนเรื่องการเจรจา เราคงต้องรอดูกันต่อไป”
แม้ว่าประเทศอื่นๆ จะติดต่อวอชิงตันเพื่อขอเจรจาการค้า แต่รัฐมนตรีคลังระบุว่ารัฐบาลสหรัฐจะ “ปล่อยให้เรื่องต่างๆ สงบลงสักพัก” ก่อนจะรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
'เวียดนาม' บินเจรจาสุดสัปดาห์นี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า “เวียดนาม” มีแผนที่จะส่งรองนายกรัฐมนตรี โฮ ดึก ฟ็อก บินไปเจรจากับสหรัฐอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ พร้อมกับทีมคณะนักธุรกิจชั้นนำในประเทศจากหลายอุตสาหกรรม เช่น เวียดนาม แอร์ไลน์ส, เวียตเจ็ท และวินาแคปิทัล ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการเดินเกมเบื้องหลังอันดุเดือดที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกเพื่อเตรียมรับมือกับการประกาศภาษีของทรัมป์
รายงานระบุว่า เป็นที่คาดการณ์ว่าทีมเจรจาของเวียดนามจะเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่นิวยอร์กในวันจันทร์ โดยคาดว่าทั้งสองสายการบินจะพบกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทโบอิง และธนาคารบางแห่งของสหรัฐ ขณะที่รองนายกฯ ยังมีกำหนดเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เช่นกัน
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนประกาศภาษี เวียดนามได้ดำเนินมาตรการต่างๆ มากขึ้นเพื่อโน้มน้าวสหรัฐว่าเวียดนาม “จริงจัง” กับการ “ลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐ” ที่สูงถึง 1.23 แสนล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว และสูงเป็นอันดับ 3 รองจากจีน และเม็กซิโก โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย. เวียดนามก็เพิ่งชิงประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐหลายประเภท รวมถึงก๊าซแอลเอ็นจี และรถยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐใช้มาตรการภาษีใหม่วันที่ 2 เม.ย.68 กับเวียดนาม
ภาษีรถยนต์ บางประเภทถูกลดลงเหลือ 32% จากเดิมที่สูงถึง 64%
ภาษีแอลเอ็นจี ลดลงเหลือ 2% จาก 5%
ภาษีเอทานอล ลดลงเหลือ 5% จาก 10%
นอกจากนี้ การนำเข้าสินค้าเกษตร เช่น แอปเปิ้ลสด ไก่แช่แข็ง อัลมอนด์ และเชอร์รี่ ก็ได้รับการลดภาษีเช่นกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







