'เหล็กจีน' แย่หนัก ยักษ์เบอร์ 2 ขาดทุนสองเท่าทะลุ 3 หมื่นล้าน

ยักษ์บริษัทเหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ในจีน ขาดทุนเพิ่มเป็นสองเท่า ทะลุ 3 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว สะท้อนอุตสาหกรรมเหล็กจีนที่ยังย่ำแย่หนักจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์
บริษัท "อันกัง สตีล คอร์ปอเรชั่น" (Angang Steel) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในจีน ประกาศการขาดทุนเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ (เกือบ 3.4 หมื่นล้านบาท) ในปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงสภาวะที่ย่ำแย่ในอุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจากความต้องการที่หดตัว และราคาที่ตกต่ำ
อันกัง สตีล ระบุในเอกสารที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิประจำปี "เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า" เป็น 7.1 พันล้านหยวน (981 ล้านดอลลาร์) จาก 3.3 พันล้านหยวนในปี 2566 โดยผู้ผลิตเหล็กในจีนกำลังดิ้นรนกับ "การสิ้นสุดของยุคเฟื่องฟูตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา" เนื่องจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในจีนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อดีมานด์เหล็กอย่างหนัก
"ในปี 2567 อุตสาหกรรมเหล็กต้องเผชิญกับสภาวะตลาดที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง" บริษัทระบุในการแจ้งตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น โดยราคาเหล็กลดลงท่ามกลางความต้องการปลายน้ำที่อ่อนแอ ในขณะที่ราคาแร่เหล็กยังคงสูง
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหล็กของจีนอยู่ในภาวะขาดทุนเกือบตลอดทั้งปี 2024 โดยมีหนี้สินพุ่งสูงขึ้น และบริษัทจำนวนมากประสบภาวะขาดทุน ขณะที่กำไรภาคอุตสาหกรรมในสองเดือนแรกของปี 2568 แสดงให้เห็นว่าสภาพการณ์ยังคงย่ำแย่ เนื่องจากพื้นที่การเติบโตใหม่ไม่เพียงพอที่จะทดแทนกิจกรรมการก่อสร้างที่ซบเซาลง
บลูมเบิร์ก ระบุว่าโรงงานในจีนยังคงผลิตเหล็กมากเกินไป โดยปริมาณการผลิตยังคงอยู่เหนือระดับ "1 พันล้านตัน" อย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว ขณะที่การปกป้องการค้าทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นก่อให้เกิดความเสี่ยงสำคัญในปีนี้ โดย "มาตรการทางภาษี" ที่มีการเรียกเก็บโดยประเทศต่างๆ ตั้งแต่สหรัฐจนถึงเวียดนาม และอินเดีย อาจจะยิ่งกระทบต่อการค้า และการส่งออกของจีนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มิเชล เหลียง นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ระบุว่า อันกัง สตีล อาจลดการขาดทุนได้ในปี 2568 หากราคาเหล็กฟื้นตัวจากดุลยภาพภายในประเทศที่ดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนเคยประกาศว่าจะสั่งให้มีการลดกำลังการผลิตเล็กลง เพื่อช่วยบรรเทากำลังการผลิตส่วนเกิน หรือโอเวอร์ซัพพลาย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







