‘วาสนา’แจงสหรัฐจำกัดวีซ่าไม่ใช่ ‘คว่ำบาตร’ แนะนายกฯ เข้าหาทรัมป์

‘วาสนา’แจงสหรัฐจำกัดวีซ่าไม่ใช่ ‘คว่ำบาตร’ แนะนายกฯ เข้าหาทรัมป์

วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ นักวิชาการดังผู้เชี่ยวชาญด้านจีน โพสต์โซเชียลมีเดียในประเด็นว่าด้วยการจำกัดวีซ่าของ US State Department พร้อมแนะนายกฯ อิ๊งค์ควรไปหาทรัมป์ก่อน ไม่ใช่รอให้เขาเล่นงานอย่างเดียว

จากกรณีที่นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ประกาศมาตรการจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทยผู้เกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานแถลงการณ์ของนายรูบิโออย่างแพร่หลาย

เมื่อราว 12.20 น. วันเสาร์ (15 มี.ค.) รศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน โพสต์โซเชียลมีเดียในเรื่องนี้ว่า  

ว่าด้วยการจำกัดวีซ่าของ US State Department มาตราการของ Marco Rubio จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิด เพราะว่าสหรัฐฯ ก็ทำอย่างนี้อยู่เนืองๆ เช่น จำกัดวีซ่าผู้บริหารฮ่องกงตอนเกิดเหตุรุนแรงปี 2019 จำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นซินเจียงบางคน ตัว Rubio เองก็เคยโดนจำกัดวีซ่าจากจีนเมื่อสมัยที่ร่วมรัฐบาล Trump เมื่อรอบที่แล้ว

แต่สิ่งนี้ไม่เรียกว่า “คว่ำบาตร” อเมริกาไม่ได้คว่ำบาตรจีน ไม่ได้คว่ำบาตรฮ่องกง จีนไม่ได้คว่ำบาตรอเมริกาด้วยการไม่ให้วีซ่า Rubio ในรัฐบาล Trump รอบที่แล้ว ปธน สีจิ้นผิง รมว ตปท หวังอี้ ก็ยังไปอเมริกาได้ตามปกติ

เรารอดูก่อนมั้ยว่าหวยจะออกที่ใครบ้าง ในประกาศ กต สหรัฐฯ ยังไม่ระบุชื่อใครเลยชัดๆ ถ้าถามเราคิดว่าไม่แปลกที่การตัดสินใจส่งอุยกูร์กลับมันควรต้องมี consequence บ้าง รองฯ ภูมิธรรม (ซึ่งเป็น รมว กลาโหม ด้วย) ก็ควรต้องโดน แต่ไม่น่าแบนไปถึงท่านนายกฯ เพราะว่าสหรัฐฯ ก็ยังต้องการดึงไทยและอาเซียนออกมาจากจีนให้มาเข้าข้างสหรัฐฯ ถ้าแบนคนที่จะเจรจาได้ไปหมด (นายกฯ รมว ตปท) ก็เท่ากับเป็นการผลักให้ไทยไปเข้าข้างจีนยิ่งกว่านี้ แต่การแบนเฉพาะบางคนจะเป็นสัญญาณได้ว่าสหรัฐฯ ไม่โอเคกับความโปรจีนของผู้นำระดับสูงในรัฐบาลไทยขนาดนี้ และจะทำให้การเจรจาขึ้นภาษีมีน้ำหนักมากขึ้น และฝ่ายไทยจะมีแรงกดดันให้ decouple กับจีนมากขึ้น

เข้าใจว่าคนที่เกลียดรัฐบาลจะสะใจกับเรื่องนี้ แต่ควรจะตระหนักไว้ด้วยว่าการออกมามี statement อะไรเว่อร์ๆ แบบ “สหรัฐฯ คว่ำบาตรไทย” นี่มันไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย ถ้ารัฐบาลไทยเลือกตัดขาดกับสหรัฐฯ แล้วไปคบกับจีนประเทศเดียวแบบ exclusively เนี่ย นอกจากจะไม่ได้ทำให้พิธาเป็นนายกแล้ว ประชาชนจะลำบากมากๆ ด้วย เผลอๆ ปี 70 จะไม่ได้เลือกตั้งอีกเพราะเราจะได้ออกจากเส้นทางประชาธิปไตยตามจีนไปแล้ว ดังนั้นขอความกรุณาโพสต์ใน social media อย่างรับผิดชอบหน่อย you know who you are ไม่คิดว่าจำเป็นต้องแขวน

ทั้งนี้ รศ.ดร.วาสนากล่าวเพิ่มเติมกับกรุงเทพธุรกิจว่า กระทรวงการต่างประเทศควรดำเนินนโยบายเชิงรุกกับสหรัฐให้มากกว่านี้ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรเดินทางไปพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก่อน เหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นทำ "ไม่ใช่รอเขามาเล่นเราอย่างเดียว"

อ่านโพสต์ต้นฉบับที่ https://www.facebook.com/779940053/posts/10171028651455054/?mibextid=wwXIfr&rdid=vKc9LjvANdX41iJN#