เครื่องปั้นดินเผา Bolesławiec ความภาคภูมิใจของโปแลนด์ | World Wide View

รู้จักเครื่องปั้นดินเผา Bolesławiec ความภาคภูมิใจของโปแลนด์ เพราะเป็นผลิภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เลื่องชื่อหลายยุคหลายสมัย เป็นเป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นนำและราชวงศ์ในยุโรป
ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติพอเริ่มมีการรวมตัวกันเป็นชุมชน และรู้จักการใช้ไฟและสิ่งรอบๆ กายมาเป็นเครื่องมือต่างๆ ก็มักจะมีวัฒนธรรมร่วมอย่างหนึ่งคือการเอาดินเหนียวมาปั้นแล้วเผาไฟเพื่อให้แข็งแรง และเอาไว้เก็บน้ำหรือสิ่งของส่วนตัวต่างๆ จนเกิดเป็นเครื่องปั้นดินเผา ที่นักมนุษยวิทยาสามารถขุดพบได้ในแหล่งอารยธรรมหลายแห่งทั่วโลก และใช้เป็นสิ่งหนึ่งในการศึกษาจุดเริ่มต้นและวิวัฒนาการของวัฒนธรรมชุมชนนั้นๆ
ดินแดนแถบยุโรปกลางบริเวณพื้นที่แถบเยอรมนี เช็ก ออสเตรีย และโปแลนด์ ก็เป็นแหล่งหนึ่งที่มีการขุดพบเครื่องปั้นดินเผาที่มีอายุตั้งแต่กว่า 7 พันปีก่อน และมีพัฒนาการของเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญมาจนปัจจุบัน โดยเฉพาะแถบเขตเมือง Silesia (ไซลีเซีย) ซึ่งมีวัตถุดิบดินเหนียวที่มีคุณภาพ เขต Silesia นี้เคยเป็นดินแดนของเยอรมนี แต่ปัจจุบันมาเป็นจังหวัดสำคัญหนึ่งของโปแลนด์ และมีเมืองหนึ่งซึ่งในภาษาเยอรมันเรียกว่าเมือง Bunzlau และในภาษาโปลิชเรียกว่าเมือง Bolesławiec (โบเลสวาเวียซ) ห่างจากชายแดนเยอรมันประมาณ 80 กม. แม้ว่าในโปแลนด์จะมีเมืองที่มีดินเหนียวที่มีคุณภาพและมีโรงงานเครื่องปั้นดินเผาหลายแหล่ง แต่ Bolesławiec ถือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงที่สุดของโปแลนด์
เมือง Bolesławiec นี้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 โดยทรัพยากรดินเหนียวที่มีคุณภาพในเมืองนี้เป็นส่วนสำคัญของการสร้างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองมาตั้งแต่ต้น ในช่วงแรกของการสร้างเครื่องปั้นดินเผาที่นี่ก็ใช้สีและเทคโนโลยีพื้นฐาน เรียกว่าเป็น earthenware และต่อมาก็พัฒนาให้มีสีสันและมีความซับซ้อนในการเผาดินมากขึ้น จนเป็น stoneware โดยสีที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่นี่คือสี royal blue บนพื้นสีขาว และใช้สีอื่นแต่งแต้มอีกเล็กน้อย และการออกแบบแรกๆ นิยมใช้รูปลักษณ์ของขนนกยูง ซึ่งนกยูงถือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความเป็นราชนิกูลของคนยุโรปสมัยก่อน ทำให้เครื่องปั้นดินเผาจาก Bolesławiec เป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นนำและราชวงศ์ในยุโรป และเมืองกลายเป็นแหล่งรวมของ knowhow ด้านเทคโนโลยีการปั้นและการออกแบบเครื่องปั้นดินเผา จนเกิดการก่อตั้ง Professional School of Ceramics ขึ้นในปี 1897 คนเมืองนี้ถึงกับกล่าวด้วยความภูมิใจว่า ผลิตภัณฑ์ของเมืองมีค่าคู่ควรโต๊ะเสวยของกษัตริย์และโป๊ปหลายพระองค์
แต่ด้วยความที่เป็นเมืองน้อยที่อยู่กลางเส้นทางแห่งอำนาจ ทำให้ Bolesławiec ผ่านเหตุการณ์สงครามมาหลายครั้ง ถูกแบ่งให้อยู่ภายใต้การปกครองของหลายประเทศ ต้องสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ โดยทำลายซ้ำ และต้องบูรณะชุมชนขึ้นอีกหลายหน จนในห้วงเวลาหนึ่งจากเมืองที่มีชุมชนกว่า 600 คน เหลือคนในเมืองเพียง 80 คน
จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาขึ้นอีกครั้งอย่างเป็นระบบและยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน และเครื่องปั้นดินเผาจากที่นี่ นอกจากการออกแบบที่สวยงามแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน สามารถเข้าเครื่องล้างจาน ไมโครเวฟ ตู้แช่แข็ง และเตาอบได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติสามารถกระจายความร้อนได้ทั่วถึง เหมาะสำหรับการใช้อบขนมและอาหาร และเคลือบอย่างมีคุณภาพทำให้ล้างง่าย ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานตามยุคตามสมัย เรียกว่าครบเครื่องทั้ง function และ design ส่งผลให้เวลาใครที่มาโปแลนด์ ก็มักจะต้องมองหาผลิตภัณฑ์ของ Bolesławiec กลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกกัน และยังมี outlet ประเทศอื่น ๆ นอกยุโรป เช่น ในอเมริกา และเกาหลีใต้ด้วย
เครื่องปั้นดินเผาจาก Bolesławiec จะว่าไปก็คล้ายความเป็นชาติของโปแลนด์ ที่ถูกสร้าง ถูกท้าทาย ถูกทำลาย และได้รับการสร้างใหม่จนเทียบเทียมอารยประเทศอย่างน่าภูมิใจ....ไทยเราเองก็มีวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผามายาวนานตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านเชียง จนกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สะท้อนวัฒนธรรมในหลายท้องถิ่น เช่น ที่ราชบุรี หรือเกาะเกร็ด ที่เราเองก็ภาคภูมิใจ
แต่เครื่องปั้นดินเผาจะสวยงามหรือทนทานแค่ไหน ถ้าตกพื้นก็แตกเหมือนกัน เช่นเดียวกับความเป็นชาติที่แม้จะเข้มแข็งเพียงใด หากมีปัจจัยที่เกินควบคุมก็มีความเปราะบางได้เช่นกัน ดังนั้น จะเป็นเครื่องปั้นดินเผาหรือความเป็นชาติ ก็มีความเหมือนกันอย่างหนึ่ง...คือต้อง Handle with care