ทรัมป์หลบกล้องหลังหุ้นร่วงหนัก อดีตรมว.คลัง เตือน ศก.ถดถอย

ทรัมป์หลบกล้องหลังหุ้นร่วงหนัก อดีตรมว.คลัง เตือน ศก.ถดถอย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสื่อในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนัก นักลงทุนผวาเศรษฐกิจจะถดถอย

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ปรากฏตัวบนกล้องสื่อในวันจันทร์ (10 มี.ค.68) ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นสำหรับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ตัดประเด็นที่ว่าเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อถูกสื่อถามถึงความเห็นต่อตลาดหุ้นร่วง ทำเนียบขาวให้เครดิตกับนโยบายของประธานาธิบดีที่ช่วยกระตุ้นการลงทุน และชี้ให้เห็นถึงผลงานในวาระแรกของเขาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ

“นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับเลือกตั้ง ผู้นำในอุตสาหกรรมได้ตอบสนองต่อวาระเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เน้นอเมริกาต้องมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีศุลกากร การยกเลิกกฎระเบียบ และการปลดปล่อยพลังงานของอเมริกา ด้วยการประกาศแผนการลงทุนหลายล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะสร้างงานใหม่หลายพันตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ สร้างการเติบโตของการจ้างงาน ค่าจ้าง และการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ในวาระแรกของเขา และเตรียมที่จะทำเช่นนั้นอีกครั้งในวาระที่สองของเขา” คูช เดไซ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์

ในวันจันทร์ ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีติดตามบริษัทอเมริกันรายใหญ่ ปิดตลาดซื้อขายร่วงลง 2.7% ขณะที่ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 2%

ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยดิ่งลง 4% เข้าสู่การปรับฐาน

การเทขายหุ้นจำนวนมากนั้นส่วนใหญ่เกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรของทรัมป์ ในการสัมภาษณ์กับทีวีฟ็อกซ์นิวส์  ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐ จะ "ผ่านพ้นช่วงเปลี่ยนผ่าน" และปฏิเสธที่จะตัดประเด็นว่าเศรษฐกิจจะถดถอย

อดีต รมว.เตือนเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

แลร์รี ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจว่า "เป็นบาดแผลที่เกิดจากการทำร้ายตัวเอง"

ซัมเมอร์ส กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ปรับขึ้นภาษีศุลกากร และเปลี่ยนแปลงท่าทีกลับไปกลับมานั้น อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันราคาสินค้าก็พุ่งสูงขึ้นด้วย

“เรากำลังเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดทั้งสองด้าน” ซัมเมอร์ส กล่าวกับเคซี ฮันท์จากทีวีซีเอ็นเอ็น “นี่แทบจะเป็นบาดแผลที่เกิดจากการทำร้ายตัวเอง”

ซัมเมอร์ส กล่าวว่า “เมื่อผู้คนกังวลว่าจะหาสินค้าไม่ได้ในอนาคต หรือหาสินค้าไม่ได้หากไม่จ่ายภาษีศุลกากรสูง ราคาสินค้าก็จะพุ่งสูงขึ้น”

ซัมเมอร์ส กล่าวเสริมว่า ความไม่แน่นอนที่รัฐบาลทรัมป์ก่อไว้ อาจส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดการเงิน และเศรษฐกิจโดยรวม

“เรามีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่จะเกิดวงจรอุบาทว์ เมื่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะส่งผลให้ตลาดอ่อนแอลง และตลาดที่อ่อนแอลงก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอลง” เขากล่าว

หุ้นสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ ขณะที่บิตคอยน์ร่วงลงตาม และดัชนีความกลัวของวอลล์สตรีทพุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ทำให้เกิดการเทขายในตลาดอย่างกว้างขวางในวันนี้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์