สหรัฐ เร่งส่งอาวุธ ให้ไต้หวันป้องกันตัวเอง หลังระงับช่วยเหลือยูเครนไม่นาน

สหรัฐเร่งจัดส่งอาวุธโดยเฉพาพอาวุธสงครามให้ไต้หวัน เพื่อคลายความกังวลหลังระงับความช่วยเหลือยูเครน ขณะที่จีนเพิ่มการข่มขู่ทางทหารและใช้ถ้อยคำรุนแรงเกี่ยวกับ "การรวมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" ไต้หวันตอบสนองด้วยการเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็น 3% ของ GDP พร้อมกับ TSMC วางแผนลงทุนสร้างโรงงานชิปในสหรัฐมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงถ้อยแถลงของ “เรย์มอนด์ กรีน” ผู้อำนวยการสถาบันอเมริกันในไต้หวันซึ่งเปรียบเสมือนสถานกงสุนสหรัฐประจำไต้หวัน วันนี้ (10 มี.ค.) ว่า สหรัฐกำลังพยายามเร่งการจัดส่งอาวุธไปยังไต้หวัน
"เรากำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อเร่งกำหนดเวลาการจัดส่ง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ 'สงครามไร้สมมาตร' (Asymmetrical warfare) เพราะเป็นอาวุธที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันของไต้หวัน" กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับลิเบอร์ตี้ไทม์ส หนังสือพิมพ์ในไทเป
"หากสงครามยูเครนสิ้นสุดลง เราคาดว่าจะหันกลับมาให้ความสนใจต่อความต้องการด้านการป้องกันของไต้หวัน" เขากล่าวเพิ่มเติมในการสัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ไม่ได้ระบุว่าการสัมภาษณ์จัดขึ้นเมื่อใด
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า คำให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ในไทเปซึ่งกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไม่นานมานี้หลังจากทั้งคู่มีปากเสียงกันในห้องทำงานรูปไข่ของประธานาธิบดีในทำเนียบขาว
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ยังระบุอีกว่า ไต้หวันพึ่งพาความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐเพื่อป้องกันจีนอย่างมาก ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อนำประชาธิปไตยกลับมาที่เกาะแห่งนี้ โดยการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ของอเมริกาไปยังไต้หวันถูกจำกัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากสหรัฐมุ่งเน้นการสนับสนุนยูเครนหลังจากรัสเซียบุกรุกอย่างเต็มรูปแบบ
คำถามเกี่ยวกับ "ความมุ่งมั่นของวอชิงตัน" ที่มีต่อไต้หวันเพิ่มมากขึ้นหลังจากการเผชิญหน้าอย่างดุเดือดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนในห้องทำงานรูปไข่ เหตุการณ์นั้นตามมาด้วยการที่สหรัฐระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน
ท่าทีครั้งนี้ของกรีนย้ำถึงความหวังของไต้หวันในการสนับสนุนทางทหารจากสหรัฐ อย่างต่อเนื่อง ด้านฟรังซัวส์ ชีชุง หวู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ไต้หวัน "กำลังอธิษฐาน" เพื่อขอให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐใกล้ชิดมากขึ้นโดยเฉพาะด้านความมั่นคง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มการข่มขู่ทางทหารต่อไต้หวัน หนึ่งในนั้นคือการจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่หลายชุดรอบเกาะไต้หวัน อีกทั้งยังทดสอบขีดความสามารถของกองทัพอากาศและกองทัพเรือของไต้หวันเกือบทุกวัน ด้วยการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่อ่อนไหวของหมู่เกาะ
ปักกิ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันจะยังคงอยู่เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อ หวัง หู้หนิง เจ้าหน้าลำดับสูงอันดับที่ 4 ของจีน ใช้ภาษาที่รุนแรงขึ้นต่อไต้หวัน โดยหวัง เรียกร้องให้จีนแผ่นดินใหญ่ "กำหนดรูปแบบการรวมชาติของแผ่นดินแม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้"
ท่าทีทั้งหมดมีขึ้นหลังจากที่เมื่อช่วงเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันประกาศว่าจะซื้ออาวุธทางการทหารจากสหรัฐเพิ่มมากขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มงบประมาณของกระทรวงกลาโหมขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยเดิมเพื่อตอบสนองต่อนโยบายภาษีของทรัมป์ มากไปกว่านั้น TSMC ยังเพิ่งจะประกาศแผนลงทุนสร้างโรงงานชิปเซมิคอนดักเตอร์ 5 แห่งในสหรัฐจำนวนกว่า 1 แสนล้านบาทซึ่งคาดว่าจะสร้างงานให้ชาวอเมริกันมหาศาล
อ้างอิง: Bloomberg







