'ค่าจ้างญี่ปุ่น' พุ่งสูงสุดในรอบ 32 ปี ส่งสัญญาณหนุน BOJ เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย

'ค่าจ้างญี่ปุ่น' พุ่งสูงสุดในรอบ 32 ปี ส่งสัญญาณหนุน BOJ เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย

ค่าจ้างพื้นฐานญี่ปุ่นพุ่ง 3.1% ในเดือนม.ค. สูงสุดในรอบ 32 ปี เหตุตลาดแรงงานแข็งแกร่งและสหภาพแรงงานเรียกร้องการปรับค่าตอบแทนเพื่อชดเชยภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น คาด BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป แม้รายได้ที่แท้จริงของครัวเรือนจะยังถูกกดดันจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นก็ตาม

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (10 มี.ค.) ว่า แรงงานญี่ปุ่นได้รับค่าจ้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งที่สูงที่สุดในรอบ 32 ปี ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ท่ามกลางการพิจารณาแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์

กระทรวงแรงงานญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า  ค่าจ้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2535 นอกจากนี้ ดัชนีค่าจ้างซึ่งมีความแม่นยำมากที่สุด แสดงให้เห็นว่าค่าจ้างสำหรับพนักงานประจำเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี การเติบโตของรายได้ที่แท้ในรูปเงินสด (Nominal Cash) ชะลอตัวลงในเดือนม.ค.เหลือ 2.8% จากปีก่อนหน้า ผลลัพธ์นี้ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 3%ซึ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของการเติบโตของเงินเฟ้อ เนื่องจากรายได้ดังกล่าวลดลง 1.8% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 และลึกกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะลดลง 1.6%

โดยรวมแล้ว ข้อมูลบ่งชี้ว่าแนวโน้มค่าจ้างพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งแม้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนจะลดลงจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้จึงน่าจะทำให้บีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายทางการเงินพยายามหาความสมดุลระหว่างการรักษาแรงขับเคลื่อนการเติบโตและการทำให้นโยบายการเงินเป็นปกติโดยการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นสู่ระดับที่เป็นกลาง

นาโอกิ ฮัตโตริ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของมิซูโฮะ รีเสิร์ช แอนด์ เทคโนโลยีส์ จำกัด กล่าวว่า บีโอเจ จะยืนยันผ่านข้อมูลวันนี้ว่าแนวโน้มค่าจ้างกำลังดำเนินไปตามแผน ดังนั้นธนาคารจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับนโยบายการเงิน พร้อมอธิบายเสริมว่า 

"กล่าวอีกนัยหนึ่ง ข้อมูลวันนี้จะไม่เป็นเหตุผลให้เร่งหรือเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป"

ตัวเลขเหล่านี้เกิดขึ้นในขณะที่การเจรจาค่าจ้างประจำปีระหว่างสหภาพแรงงานและนายจ้างกำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายสัปดาห์นี้พร้อมกับผลลัพธ์เบื้องต้นของข้อตกลงในปีนี้ พนักงานในญี่ปุ่นภายใต้ร่มของ "เรนโงะ" กลุ่มสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุด เรียกร้องการเพิ่มค่าจ้างที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นยังคงแข็งแกร่งหลังจากการเจรจาเมื่อปีที่แล้วส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่าสามทศวรรษ

การเรียกร้องค่าตอบแทนของพวกเขายังสะท้อนถึงความอดทนที่ลดลงต่อค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. โดยราคาอาหารสดเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดในรอบสองทศวรรษ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมอยู่ที่ 4%

ก่อนหน้านี้ บีโอเจ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบายเป็น 0.5% ในเดือนม.ค. และคาดว่าคณะกรรมการฯ จะยังคงรักษาสถานะเดิมเมื่อประชุมในสัปดาห์หน้าขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินผลกระทบจากการเคลื่อนไหวดังกล่าว ฉันทามติของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การปรับขึ้นครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางรายได้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงของการปรับขึ้นเร็วที่สุดในวันที่ 1 พ.ค.

ด้านคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการบีโอเจ และคณะกรรมการฯ ท่านอื่นได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากแนวโน้มราคาเป็นไปตามที่คาดการณ์ และคำถามหนึ่งคือความแข็งแกร่งของค่าจ้างพื้นฐานจะกระตุ้นอุปสงค์ของผู้บริโภคหรือไม่ ข้อมูลวันอังคารคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค.ถึง 3.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565

บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ภาระการบรรเทาผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นความกังวลหลักของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีบางส่วนลาเนื่องจากความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในประเทศ อิชิบะและพรรคเสรีประชาธิปไตยกำลังเผชิญกับการทดสอบในการเลือกตั้งระดับชาติในช่วงฤดูร้อนนี้ หลังจากที่พรรคมีผลงานไม่ดีในการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนต.ค. ซึ่งอาจส่งผลต่อผลการเลือกตั้งดังกล่าว

อ้างอิง: Bloomberg